เนรมิตกระท่อมหลังเล็กให้กลายเป็นบ้านในฝัน สไตล์อเมริกันคอตเทจ

บ้านในฝันของทุกคนเป็นแบบไหน?

บ้านในฝันของเราอาจมีลักษณะแตกต่างกันไป บางคนเน้นความสวยงาม เพื่อบ่งบอกไลฟ์สไตล์ สะท้อนตัวตนของผู้อยู่ หรือบางคนเลือกบ้านจากความสะดวกสบาย อาจจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝด มีมุมสวนหรือสระว่ายน้ำไว้เป็นสถานที่ผ่อนคลายภายในบ้าน ที่เราสามารถดีไซน์เป็นโซนปิกนิกสุดเก๋ พร้อมเติมแรงบันดาลใจดีๆ ระหว่างวัน

และเมื่อพูดถึงบ้านในฝัน การตกแต่งบ้านจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายอย่าง เพื่อให้บ้านของเรากลายเป็นบ้านในฝันได้อย่างแท้จริง วันนี้อารียาขอแนะนำการแต่งบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจ ที่มีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ชัดเจน เน้นความเรียบง่าย อบอุ่น และเป็นบ้านที่เรามักจะได้เห็นในภาพยนตร์แนวเทพนิยายหลายเรื่อง
บ้านสไตล์คอตเทจคืออะไร

คอตเทจ (Cottage) หากแปลตรงตัวก็คือ ‘กระท่อม’ ด้วยสไตล์ของบ้านที่มักจะออกแบบมาให้คล้ายบ้านพักตากอากาศ อย่างบ้านพักริมทะเลที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย หรือบ้านบนเขาก็จะให้บรรยากาศของบ้านน้อยในป่าใหญ่แสนอบอุ่น บ้านสไตล์คอตเทจเป็นบ้านที่ปลูกด้วยวัสดุจากธรรมชาติอย่างไม้หรืออิฐ แวดล้อมด้วยธรรมชาติ มีสนามหญ้า แปลงดอกไม้ หรือต้นไม้ใหญ่ บ้านสไตล์นี้ยังแบ่งได้อีกหลายแบบ ทั้งแบบอังกฤษ แบบฝรั่งเศส แบบนอร์ดิก แบบวินเทจ แบบอเมริกัน แต่ละแบบก็มีบรรยากาศที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการแต่งบ้าน อย่างแบบอังกฤษจะเป็นบ้านไม้หลังคามุงจาก หรือบ้านอิฐชั้นเดียวคล้ายกระท่อม หากยังนึกไม่ออกให้ลองนึกภาพบ้านของแฮกริดในภาพยนตร์แฮร์รี่พอตเตอร์ ในขณะที่บ้านสไตล์คอตเทจแบบวินเทจจะเป็นบ้านที่ดูย้อนยุคสไตล์เรโทร แต่งบ้านด้วยของเก่า แต่ก็ร่วมสมัย

ลักษณะของบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจ

บ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจเป็นบ้านที่มักจะพบในแถบอเมริกาเหนือ มีลักษณะเป็นกระท่อมขนาดกะทัดรัด มักจะใช้เป็นบ้านพักตากอากาศช่วงวันหยุดยาวในฤดูร้อน เป็นที่นิยมทั้งในอเมริกาและแคนาดา ตัวบ้านเป็นได้ทั้งไม้ อิฐ หรือหิน มีพื้นที่ใช้สอย ทั้งห้องรับแขก ห้องครัว ไปจนถึงห้องนอน ซึ่งตกแต่งบ้านให้น่าอยู่ในบรรยากาศชนบท มีความเป็นบ้านสไตล์คันทรี แต่ดูไม่เชย ตัวบ้านปลูกจากวัสดุธรรมชาติอย่างไม้หรืออิฐที่โชว์ลายตามธรรมชาติ มักจะมีพื้นเป็นพื้นไม้ ตัวบ้านมีความไม่สมมาตรกัน อาจมีหลังคาจั่วอยู่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งของบ้าน แต่ไม่อยู่ตรงกลาง อย่างในประเทศเมืองหนาวจะออกแบบให้มีปล่องไฟเฉียงมาด้านใดด้านหนึ่ง ขณะที่เฉลียงบ้านก็อยู่อีกฝั่ง ทำให้ซ้ายขวาไม่เท่ากัน ดูมีมิติ บ้านสไตล์นี้มักจะมีห้องใต้หลังคา เป็นบ้าน 1 ชั้น หรือ 1 ชั้นครึ่ง ขึ้นอยู่กับการออกแบบของสถาปนิก 
รูปแบบของบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจ

บ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจนั้นจะมีสไตล์การแต่งบ้านให้รู้สึกถึงความอบอุ่น ผ่อนคลายไปกับธรรมชาติรอบข้าง ให้ความรู้สึกเงียบสงบ บ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจยังแบ่งเป็นสไตล์ย่อยๆ ได้อีก 3 แบบ ขึ้นอยู่กับการเลือกเฟอร์นิเจอร์มาใช้ตกแต่งบ้าน

  1. บ้านสไตล์อามิส

    อามิสเป็นนิกายหนึ่งของคริสเตียนที่อาศัยอยู่ในอเมริกาทางตอนเหนือ ในหลายๆ รัฐ โดยเฉพาะรัฐโอไฮโอ, เพนซิลวาเนีย และอินเดียนา ซึ่งคนในนิกายนี้ค่อนข้างแยกตัวออกจากโลก และมีความเชื่อว่าการใช้เทคโนโลยีในการดำรงชีวิตเป็นเรื่องที่ผิดต่อหลักศาสนา ผู้ชายส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรและช่างไม้ ส่วนผู้หญิงมักจะเป็นช่างเย็บผ้า สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของชาวอามิสที่โด่งดังไปทั่วก็คืองานไม้ โดยใช้ไม้เนื้อแข็งที่โชว์ลายไม้ชัดๆ อย่างไม้โอ๊ค, ไม้วอลนัท, ไม้เมเปิล, ไม้เอล์ม มาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆ

    ในการตกแต่งบ้านสไตล์อามิส ลองหาเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็งที่โชว์ลายไม้สวยๆ มาประดับภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้โชว์ ชั้นวางของ ชุดโต๊ะอาหาร หรือเตียงนอน ก็เป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์อามิส นอกจากนี้อาจจะตกแต่งบ้านด้วยงานผ้าควิลท์ที่เย็บต่อกันเป็นผืน จะทำเป็นปลอกหมอน เบาะนั่ง หรือผ้าห่มให้กับห้องต่างๆ ภายในบ้าน ก็ทำให้บ้านดูอบอุ่นราวกับครอบครัวที่มีพ่อบ้าน และแม่บ้านที่ใส่ใจรายละเอียดภายในบ้าน

  2. บ้านสไตล์เชกเกอร์

    เชกเกอร์ก็เป็นอีกนิกายหนึ่งของคริสเตียนที่แยกตัวออกจากโลก ซึ่งปัจจุบันคนกลุ่มนี้ไม่มีหลงเหลืออยู่แล้ว แต่งานฝีมือของคนกลุ่มนี้ตกทอดมาให้คนรุ่นหลังได้เห็น เป็นงานไม้ฝีมือประณีตคล้ายกับแบบอามิส แต่เป็นงานที่มีดีไซน์แบบมินิมอล เน้นความเรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอย งานไม้แต่ละชิ้นประกอบกันโดยไร้ตะปู ไม่ว่าจะเป็นตู้ลิ้นชัก โต๊ะไม้ เก้าอี้ ตู้นาฬิกา รวมไปถึงม้าโยกที่เป็นเอกลักษณ์ของสไตล์เชกเกอร์

    เนรมิตบ้านสวยให้เป็นแบบอเมริกันคอตเทจสไตล์เชกเกอร์ได้ เพียงแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สไตล์มินิมอล อาจวางตู้ลิ้นชักไม้แบบเรียบง่ายในห้องรับแขก หรือวางม้าโยกไว้ที่เฉลียงหน้าบ้าน ก็เปลี่ยนบรรยากาศให้เป็นบ้านสไตล์เชกเกอร์ได้แล้ว

  3. บ้านสไตล์คราฟต์แมน

    งานสไตล์คราฟต์แมนเกิดขึ้นในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แพร่หลายในหลายๆ ประเทศทั้งในยุโรปและอเมริกา คำว่า “คราฟต์แมน” นั้นมีที่มาจาก กุสตาฟ สติกลีย์ ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังในอเมริกา ซึ่งผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ที่ประกอบเข้ากับวัสดุอื่นๆ อย่างโลหะ ตู้ลิ้นชักก็จะมีตัวจับเป็นทองเหลือง กลายเป็นชิ้นงานที่นำสมัยในยุคนั้น งานไม้ส่วนใหญ่จะใช้ไม้โอ๊คย้อมสี  แต่ยังคงเห็นลายไม้ชัดๆ ดีไซน์ด้วยรูปแบบที่เรียบง่าย

    การแต่งบ้านสไตล์คราฟต์แมน อาจวางเฟอร์นิเจอร์ไม้โอ๊คสวยๆ ในห้องรับแขก อย่างเก้าอี้ไม้ทรงหนาที่ไม่มีความโค้ง หรือโต๊ะไม้ที่ประกอบด้วยไม้ระแนงแบ่งช่องว่างเท่าๆ กัน โชว์ข้อต่อและเดือยที่ประกอบกันอย่างประณีต หรือแต่งบ้านด้วยฉากกั้นระหว่างห้องเป็นไม้ระแนงที่โชว์ลายไม้สวยๆ ซึ่งเป็นงานไม้สไตล์คราฟต์แมนโดยเฉพาะ

การแต่งบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจ

บ้านเดี่ยวในโครงการที่ออกแบบให้ทั้งหมู่บ้านกลายเป็นบ้านชานเมืองสไตล์อเมริกันคอตเทจ ภายนอกนั้นร่มรื่นด้วยสนามหญ้าและแปลงดอกไม้ มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา ภายในก็ควรแต่งบ้านให้เข้ากันกับภายนอก เพื่อความสวยงามและได้ประโยชน์ใช้สอยมากที่สุด ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของบ้านสไตล์นี้

โทนสีของบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจ

บ้านสไตล์นี้มักจะมีพื้นบ้านเป็นพื้นไม้ อาจใช้สีเอิร์ทโทนในการแต่งบ้าน ลองเลือกสีกลางอย่างสีเบจ สีครีม สีน้ำตาล สีเทา สีเขียวพาสเทล หรือสีขาว มามิกซ์แอนด์แมตช์ให้เข้ากันในแต่ละพื้นที่ของบ้าน หรือแต่ละห้อง ผ้าม่านควรเลือกใช้สีพื้นเรียบๆ ไม่มีลวดลาย จะช่วยให้มุมต่างๆ ของบ้านดูสว่างขึ้น ลองวางพรมผืนใหญ่สีพื้นเรียบๆ อย่างสีเทา เขียวพาสเทล หรือสีน้ำตาล มาปูไว้กลางบ้านในห้องรับแขก ก็ทำให้บ้านอันเรียบง่ายดูมีอะไรมากขึ้น และยังเป็นการโชว์เครื่องเรือนที่มีลายไม้สวยๆ ให้เด่นขึ้นอีกด้วย

เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะกับบ้าน

บ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจมักจะเป็นบ้านไม้ ลองหาเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ เผยลายไม้ดิบสวยๆ มาตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะอาหาร เตียงนอน ตู้ลิ้นชัก เลือกไม้ให้เป็นสีโทนเดียวกัน อย่างสีของไม้สน หรือเมเปิล ที่ออกสว่างๆ หรือไม้โอ๊ค หรือแอชที่มีโทนสีเข้มขึ้นมาอีกหน่อย หรือถ้าจะใช้เป็นสีขาว หรือสีควันบุหรี่ก็ยังคุมโทนสีสไตล์อเมริกันคอตเทจได้อยู่ จะเลือกแต่งบ้านในสไตล์อามิส, เชกเกอร์ หรือคราฟต์แมน ก็ขึ้นอยู่กับลักษณะเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้ นอกจากนี้อาจมองหาโซฟาผ้า หรือเก้าอี้บุนวมมาใช้แต่งบ้านก็สร้างบรรยากาศให้บ้านดูอบอุ่นขึ้น
ของแต่งบ้านที่ต้องมี

หลังจากนำเฟอร์นิเจอร์สวยๆ มาจัดวางอย่างเป็นสัดเป็นส่วนภายในบ้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะแต่งบ้านด้วยของใช้ต่างๆที่จำเป็น อย่างการตั้งตะกร้าหวายใบโตๆ ที่ไว้ข้างเครื่องซักผ้า นอกจากจะสามารถใช้งานได้จริงแล้วยังใช้ประดับบ้านให้เข้าธีมด้วย  หรือจะใช้งานฝีมือมาตกแต่งบ้าน อย่างปลอกหมอนอิงที่ทำด้วยงานควิลท์ ซึ่งเป็นผ้าชิ้นเล็กที่นำมาเย็บต่อกันเป็นผืน งานเดคูพาจ งานเครื่องสานก็ใช้ตกแต่งบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจได้ 

ห้องรับแขกเป็นห้องที่อยู่หน้าสุดของตัวบ้าน สามารถประดับด้วยกรอบไม้สวยๆ ใส่ภาพวิวทิวทัศน์ นำมาติดบนผนังห้องรับแขกได้ ถ้าอยากให้บ้านมีความเรโทรมากขึ้นอีก อาจวางตู้นาฬิกาโบราณ หรือนาฬิกาที่มีนกร้องบอกเวลาก็ดูมีสเน่ห์ไปอีกแบบ บนโต๊ะโซฟาตั้งแจกันสีพื้นเรียบๆ ใส่ไม้ประดับหรือดอกไม้สีขาว ก็สร้างบรรยากาศสไตล์คอตเทจในห้องนี้ได้แล้ว

ห้องครัวและห้องทานอาหารมักจะเป็นพื้นที่เดียวกัน ลองหาไม้ระแนงสวยๆ มาเป็นฉากกั้นแบ่งพื้นที่การใช้งานได้ ในพื้นที่ครัวสามารถตกแต่งด้วยของใช้จำเป็น โดยติดราวไม้สำหรับแขวนอุปกรณ์ทำครัวอย่างมีด ไม้พาย ทัพพี และเขียงไม้ ส่วนบนโต๊ะอาหารจะใช้อุปกรณ์ที่ทำจากไม้ หรือหวายสานก็เข้ากัน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นรองจาน ที่รองแก้ว กล่องกระดาษเช็ดปาก หรือตะกร้าผลไม้

ห้องน้ำ ติดกระจกเงาที่มีกรอบไม้หนาๆ เผยลายไม้สวยๆ เนื้อเดียวกันกับชั้นวางไม้ติดผนัง สีของไม้นั้นจะเข้ากันกับผนังห้องสีเอิร์ทโทนทุกสี ประดับด้วยกระถางต้นไม้สีพื้นตั้งไว้มุมหนึ่งในห้องน้ำ หรือจัดแจกันเล็กๆ วางในจุดต่างๆ ของห้อง อาจตั้งตะกร้าหวายไว้สำหรับใส่เสื้อผ้าเตรียมซัก ก็ได้บรรยากาศของห้องน้ำในกระท่อมน้อยกลางป่าแล้ว
ห้องนอน เป็นพื้นที่ที่ควรจัดให้สบายตาเหมาะกับการพักผ่อน เลือกเตียง ตู้วางของข้างเตียง และสตูลที่โชว์ลายไม้สวยๆ แต่งด้วยชุดเครื่องนอนสีเอิร์ทโทน บนผนังอาจจะติดกรอบไม้ที่มีภาพสีน้ำรูปทิวทัศน์สวยๆ ดูสบายตา ทำให้การพักผ่อนได้ประสิทธิภาพกว่าที่คิด

เฉลียงหน้าบ้าน วางเก้าอี้ไม้โยกไว้พักผ่อนหน้าบ้าน หรือถ้าเป็นคนรักสัตว์ จะแขวนกรงนกไม้ไว้หน้าบ้าน ก็ทำให้บ้านดูมีชีวิตชีวาขึ้นแล้ว

ไม่ว่าจะมีบ้านแบบไหนก็สามารถแต่งบ้านให้มีบรรยากาศที่น่าอยู่ได้ หากต้องการมีบ้านสไตล์อเมริกันคอตเทจ จะเริ่มจากปลูกเองก็สามารถออกแบบพื้นที่ใช้สอยได้อย่างไร้ข้อจำกัด แต่ถ้าอยากลดขั้นตอนการออกแบบและติดตามการก่อสร้างแล้ว จะมองหาโครงการบ้านที่ตอบโจทย์ลูกค้าที่ต้องการบ้านสไตล์นี้ได้ อารียาขอแนะนำโครงการ The Village ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่มองหาบ้านในฝันสไตล์อเมริกันคอตเทจ กับบรรยากาศของบ้านไม้แสนอบอุ่นที่ซ่อนตัวอยู่ในแมกไม้อันร่มรื่น แฝงกลิ่นอายของบ้านพักตากอากาศในชนบทของอเมริกา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการที่อยู่อาศัยอันเงียบสงบ แต่เข้าถึง Facility ครบครัน พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. การเดินทางสะดวกสบายด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ และรถไฟฟ้า ใกล้ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล และสถานศึกษาชั้นนำ

สนใจดูข้อมูลโครงการ The Village บ้านจากอารียา บน 5 ทำเลใกล้เมืองเพิ่มเติมได้ ที่นี่

📍 The Village ชัยพฤกษ์-วงแหวน

📍 The Village บางนา-วงแหวนฯ 4

📍 The Village วงแหวนฯ-ลำลูกกาคลอง 5

📍 The Village แจ้งวัฒนะ-ติวานนท์

📍 The Village รามอินทรา-หทัยราษฎร์

ขอขอบคุณข้อมูลจาก cottagesandbungalowsmag.com, theplancollection.com, thecottagejournal.com