จัดการปัญหาขยะอาหารในบ้าน ช่วยลดภาวะโลกร้อน
ในปัจจุบัน ปัญหาโลกร้อนเป็นอีกหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ทุกคนต้องเผชิญ และหนึ่งในสาเหตุที่มีส่วนในการทำให้เกิดปัญหาโลกร้อนที่หลายคนอาจไม่ได้นึกถึง ก็คือปัญหา “ขยะอาหาร” ที่ถูกทิ้งไปเฉลี่ยปีละ 2.5 พันล้านตันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ หรือการบริโภคก็ตาม ทำให้ขยะเหล่านี้ย่อยสลายไม่ทันเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก
สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขยะอาหาร
1. การผลิตเกินความต้องการ
ในกระบวนการเกษตรและการผลิตอาหาร มักมีการผลิตอาหารมากกว่าความต้องการจริง เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาด ความสูญเสียระหว่างการเก็บเกี่ยว และการคาดการณ์ความต้องการที่ไม่ถูกต้อง อาหารที่เหลือจากการผลิตจึงมักถูกทิ้ง
2. การขนส่งและการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม
อาหารที่ถูกขนส่งในระยะทางไกลหรือถูกจัดเก็บในสภาพที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือการเน่าเสียได้ ส่งผลให้อาหารเหล่านั้นไม่สามารถนำไปบริโภคได้และถูกทิ้งไปในที่สุด
3. มาตรฐานคุณภาพและการคัดเลือก
อาหารบางชนิดถูกทิ้งเนื่องจากไม่ตรงตามมาตรฐานคุณภาพ เช่น รูปร่าง สี หรือขนาดที่ไม่ตรงตามความต้องการของตลาด แม้ว่าจะยังสามารถบริโภคได้ก็ตาม
4. การบริโภคเกินความจำเป็น
ผู้บริโภคมักจะซื้ออาหารมากเกินกว่าที่จำเป็น หรือเตรียมอาหารในปริมาณมากเกินไป ส่งผลให้มีเศษอาหารที่เหลือและถูกทิ้งโดยไม่ถูกบริโภค
5. การขาดความตระหนักรู้และการวางแผน
ผู้บริโภคบางรายไม่ตระหนักถึงปริมาณอาหารที่พวกเขาซื้อหรือจัดเก็บ ไม่ได้วางแผนการบริโภคอย่างรอบคอบ ทำให้มีการทิ้งอาหารที่หมดอายุหรือเน่าเสียก่อนที่จะได้ใช้
6. การไม่ใช้ส่วนของอาหารที่เหลือ
ส่วนของอาหารบางอย่าง เช่น เปลือก ผักและผลไม้ที่ไม่สมบูรณ์ หรือส่วนที่เหลือจากการปรุงอาหาร มักถูกทิ้งโดยไม่ได้ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งที่สามารถนำไปทำเป็นอาหารอื่น ๆ หรือใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักได้
ขยะอาหารที่เหลือทิ้ง ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร?
เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายของขยะอาหารในหลุมฝังกลบจะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่า ส่งผลให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นนั่นเอง และปัญหาโลกร้อนจากขยะอาหาร นี้ก็ส่งผลกระทบต่อคนบนโลกมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม
ผลกระทบจากปัญหาขยะอาหาร
1. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- การปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ขยะอาหารที่ถูกทิ้งลงในหลุมฝังกลบจะเกิดการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ทำให้ปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนสูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า
- การสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ: การผลิตอาหารต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำ พลังงาน พื้นที่เพาะปลูก และสารเคมี เมื่ออาหารถูกทิ้งไปโดยไม่ได้ใช้ทรัพยากรเหล่านี้ก็สูญเปล่า
- การปนเปื้อนในดินและน้ำ: ขยะอาหารที่เน่าเสียและถูกทิ้งลงในสิ่งแวดล้อมอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนในดินและน้ำ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพของคนส่วนใหญ่
2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
- การสูญเสียทางเศรษฐกิจ: ขยะอาหารถือเป็นการสูญเสียเงินทุนที่ถูกใช้ไปในการผลิต การขนส่ง และการจำหน่ายอาหาร ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ผลิต แต่ยังรวมถึงผู้บริโภคและเศรษฐกิจของประเทศด้วย
- การเพิ่มต้นทุนในการจัดการขยะ: รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ต้องใช้ทรัพยากรในการจัดการขยะอาหาร เช่น การเก็บขยะ การกำจัด และการรีไซเคิล ซึ่งเป็นส่งผลกระทบต่อภาวะการเงิน
3. ผลกระทบต่อสังคม
- ความไม่สมดุลในการจัดสรรอาหาร: ในขณะที่มีอาหารจำนวนมากถูกทิ้งโดยไม่ได้ใช้ ประชากรบางส่วนในโลกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร การบริหารจัดการขยะอาหารที่ไม่ดีจึงสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันในการจัดสรรทรัพยากร
- การเพิ่มขึ้นของปัญหาสุขภาพ: การทิ้งอาหารในที่ที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น หนู แมลงวัน ซึ่งอาจนำพาโรคต่าง ๆ เข้ามาสู่ชุมชน อาจเกิดโรคร้ายแรงหรือโรคระบาดกับคนในพื้นที่ได้
4. ผลกระทบต่อความยั่งยืน
- การสูญเสียโอกาสในการนำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์: จริง ๆ แล้วหากมีการจัดการที่เหมาะสม ขยะอาหารที่ถูกทิ้งเหล่านี้จะสามารถนำไปใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักหรือพลังงานหมุนเวียนได้ แต่หากไม่มีจัดการ ก็ทำให้สูญเสียโอกาสใหญ่ที่จะนำทรัพยากรเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
จากผลกระทบต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาโลกร้อนนั้นไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ และร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยกันลดผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนในระยะยาว
แนวทางการแก้ไขปัญหาขยะอาหาร
1. การวางแผนการผลิตและการบริโภค
- วางแผนการซื้อและบริโภคอาหารอย่างรอบคอบ: ผู้บริโภคควรวางแผนการซื้ออาหารล่วงหน้า ซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็น และคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดการทิ้งขยะอาหารที่ไม่ได้ใช้
- สนับสนุนการบริโภคอาหารท้องถิ่นและตามฤดูกาล: การเลือกซื้ออาหารที่ผลิตในท้องถิ่นและตามฤดูกาลสามารถลดการสูญเสียจากการขนส่งและการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม
2. การจัดการอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ
- จัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม: การเก็บรักษาอาหารในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ในตู้เย็นหรือที่อุณหภูมิที่ถูกต้อง ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและลดการเน่าเสีย
- ใช้เศษอาหารอย่างมีคุณค่า: เศษอาหารที่เหลือสามารถนำมาใช้ทำอาหารจานใหม่ หรือทำปุ๋ยหมักสำหรับปลูกพืช
3. ส่งเสริมการรีไซเคิลและการทำปุ๋ยหมัก
- ทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร: ทำปุ๋ยหมักในครัวเรือนหรือชุมชน เพื่อลดปริมาณขยะอาหารและนำกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่
- ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปขยะอาหาร: เช่น การนำขยะอาหารไปใช้ในการผลิตก๊าซชีวภาพ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานหมุนเวียน ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเครื่อง Food Waste Composter เครื่องย่อย ‘เศษอาหาร’ ให้กลายเป็น ‘ปุ๋ยออร์แกนิก’
มีเครื่อง Food Waste Composter ติดบ้านไว้แล้วดีอย่างไร?
- ลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบ: เครื่อง Food Waste Composter สามารถลดปริมาณขยะอาหารที่ต้องนำไปฝังกลบ ซึ่งช่วยลดความต้องการในการใช้พื้นที่สำหรับฝังกลบ
- ผลิตปุ๋ยหมักออร์แกนิกคุณภาพสูง: ขยะอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายด้วยเครื่อง Food Waste Composter จะกลายเป็นปุ๋ยหมักที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สามารถนำไปใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัวในบ้าน
- ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: กระบวนการย่อยสลายขยะอาหารในเครื่อง Food Waste Composter ช่วยลดก๊าซมีเทนที่เกิดจากการย่อยสลายในหลุมฝังกลบ ช่วยลดผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน
- ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการขยะ: การใช้เครื่อง Food Waste Composter ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องจ่ายค่าบริการจัดการหรือนำไปกำจัด ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนหรือองค์กรได้
- สะดวกและใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว: เพียงแค่ใส่ขยะอาหารลงไปในเครื่อง แล้วรอให้กระบวนการย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งสะดวกสำหรับการใช้งานในครัวเรือน
- ลดกลิ่นและการสะสมของขยะในบ้าน: ขยะอาหารที่ถูกย่อยสลายจากเครื่อง Food Waste Composter จะไม่ส่งกลิ่นเหม็นและไม่สะสมในถังขยะในบ้าน ทำให้บ้านสะอาดและไม่เป็นแหล่งสะสมของแมลงและเชื้อโรคต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย
เพราะการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อโลก เริ่มต้นง่าย ๆ ได้จากที่บ้าน อารียาฯ จึงให้ความสำคัญกับเรื่อง Zero Waste ตามแนวคิด Sustainable Happiness โดยพร้อมมอบ Food Waste Composter* ‘เครื่องทำปุ๋ยจากขยะเศษอาหาร’ ให้กับลูกบ้าน และชวนทุกบ้านมาร่วมรักษ์โลกโดยเริ่มต้นจากการแยกขยะอาหารที่บ้าน นอกจากจะได้ปุ๋ยออร์แกนิกไว้ใส่ต้นไม้ที่บ้านแบบฟรี ๆ ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกลดขยะอาหารและลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย
ใครกำลังมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชันใช้สอยที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ Zero Waste Lifestyle ลองเข้าไปดูบ้านคุณภาพหลากหลายโครงการ บนทำเลศักยภาพ จากอารียาฯ ที่มาพร้อมกับเครื่อง Food Waste Composter* ‘เครื่องทำปุ๋ยจากขยะเศษอาหาร’ เข้าไปเลือกชมโครงการกันได้เลยที่ www.areeya.co.th
*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:
https://www.bangkokbiznews.com/social/954409