เจาะข้อดีและสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนทำการกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน
เมื่อถึงเวลาเลือกซื้อบ้าน หลายคนอาจต้องเผชิญกับความหนักใจ เนื่องจากบ้านเป็นสินทรัพย์ขนาดใหญ่ที่มีราคาสูง โดยเฉพาะในปัจจุบันที่ราคาที่ดินและค่าก่อสร้างมีแต่พุ่งขึ้น การตัดสินใจจึงต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ แถมยังต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นที่ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นค่าโอน ค่าภาษี ค่าตกแต่ง และที่สำคัญคือค่าผ่อนบ้านรายเดือน “การกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน” จึงเป็นทางเลือกที่ช่วยแบ่งเบาภาระทางการเงิน เพิ่มโอกาสการเป็นเจ้าของบ้านได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ก่อนจะซื้อบ้านชื่อร่วมก็มีสิ่งที่ควรพิจารณาให้ดีเสียก่อน
ทำความเข้าใจการกู้ร่วมซื้อบ้าน
การกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน คือการที่บุคคลสองคนขึ้นไปร่วมกันกู้เงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องรับผิดชอบหนี้สินร่วมกันและมีชื่อเป็นเจ้าของทรัพย์สินร่วมกัน การกู้ร่วมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มกำลังซื้อ หรือต้องการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระหนี้
เราสามารถซื้อบ้านชื่อร่วมกับใครได้บ้าง ?
การกู้ร่วมซื้อบ้านจะทำได้เฉพาะคนที่พิสูจน์ได้ว่าเป็นบุคคลที่อยู่ในครอบครัวเดียวกัน ได้แก่
- ผู้ที่มีนามสกุลเดียวกัน เช่น คู่สมรส พ่อ แม่ พี่-น้อง ลูก
- พ่อ แม่ ลูก พี่น้อง ที่ใช้คนละนามสกุล เนื่องจากมีคนเปลี่ยนนามสกุลภายหลัง ซึ่งจะต้องแสดงทะเบียนบ้าน หรือสูติบัตร เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน
- แฟน หรือคู่สมรสที่ไม่ได้จดทะเบียน ซึ่งต้องแสดงหลักฐานการสมรส เช่น รูปภาพงานแต่งงาน หนังสือรับรองบุตร ทะเบียนบ้านที่อยู่ร่วมกัน หรือหลักฐานการเงินร่วมกัน โดยในปัจจุบันก็ได้มีหลายธนาคารที่เปิดโอกาสให้คู่รักเพศเดียวกันสามารถกู้ร่วมกันได้แล้ว
ข้อดีของการกู้ร่วมซื้อบ้าน
เพิ่มกำลังซื้อ
เนื่องจากการรวมรายได้ของสองคนขึ้นไปเข้าด้วยกัน จะทำให้มีกำลังซื้อและกู้เงินได้ในจำนวนที่มากขึ้น จึงเปิดโอกาสให้สามารถเลือกซื้อบ้านที่มีขนาดใหญ่ หรืออยู่ในทำเลที่ตั้งใจไว้ได้ เช่น บ้านเดี่ยวหลังใหญ่ในโครงการคุณภาพ หรือคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง ซึ่งอาจเป็นไปไม่ได้หากกู้เพียงคนเดียว
แบ่งเบาภาระหนี้
การแบ่งภาระหนี้ร่วมกันจะช่วยลดความกังวลเรื่องการผ่อนชำระหนี้รายเดือนลงได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงแรกที่ภาระหนี้สินอาจค่อนข้างสูง การมีผู้กู้ร่วมจะช่วยให้การแบ่งปันภาระเป็นไปอย่างเท่าเทียม ลดความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาทางการเงินได้
เพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ
สถาบันการเงินมักพิจารณาความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้เป็นหลัก การมีผู้กู้ร่วมที่มีรายได้มั่นคงจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ทำให้มีโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อให้สูงขึ้น
สร้างความมั่นคงทางการเงิน
การมีทรัพย์สินร่วมกัน จะช่วยสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับครอบครัวในระยะยาว เนื่องจากบ้านไม่เพียงแต่เป็นที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังเป็นสินทรัพย์ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลาอีกด้วย
ข้อควรระวังในการกู้ร่วมซื้อบ้าน
แม้ว่าการกู้ร่วมซื้อบ้านจะมีข้อดีมากมาย แต่ก็มีข้อควรพิจารณาที่สำคัญหลายประการที่ควรทราบก่อนตัดสินใจ ดังนี้
การผิดใจกันระหว่างสัญญา
การกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้านเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทั้งปัจจัยทางการเงินและความสัมพันธ์ส่วนตัว หากเกิดความขัดแย้ง หรือผิดใจกันระหว่างผู้กู้ร่วมในระหว่างสัญญา อาจส่งผลกระทบต่อการชำระหนี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมชำระในส่วนที่ตนเองต้องรับผิดชอบ ทำให้ผู้กู้ร่วมรายอื่นอาจต้องรับผิดชอบภาระหนี้ส่วนที่เหลือแทน ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายและความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ตามมา
อาจทำให้การกู้ในครั้งต่อไปยากขึ้น
มักเกิดขึ้นเมื่อตัดสินใจอยากกู้ทรัพย์สินส่วนตัวเป็นของตัวเอง เนื่องจากหากมีภาระหนี้สินจากการซื้อบ้านชื่อร่วมอยู่แล้ว สถาบันการเงินอาจพิจารณาว่าผู้กู้มีภาระหนี้สินมากเกินไป และไม่อนุมัติการกู้เงินในครั้งต่อไป อีกทั้งยังมีความเสี่ยง หากมีประวัติการผิดนัดชำระหนี้จากผู้ที่กู้ร่วมซื้อบ้านด้วยกัน เพราะประวัติของผู้กู้ร่วมทุกคนจะเสียหาย ส่งผลต่อการขอสินเชื่อในอนาคต
สิทธิลดหย่อนภาษี
สิทธิในการลดหย่อนภาษีค่าดอกเบี้ยบ้านจะถูกหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ร่วม ทำให้แต่ละคนได้รับสิทธิลดหย่อนภาษีน้อยลงเมื่อเทียบกับการกู้ซื้อบ้านคนเดียว
ทำอย่างไรเมื่อต้องการยกเลิกการกู้ร่วมซื้อบ้าน
การตัดสินใจยกเลิกการกู้ร่วมเพื่อซื้อบ้าน อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น การเปลี่ยนแปลงสถานะความสัมพันธ์ การย้ายที่อยู่ หรือเหตุผลทางการเงินส่วนบุคคล ซึ่งการยกเลิกสัญญากู้ร่วมนั้นต้องผ่านขั้นตอนที่ซับซ้อนและต้องมีการวางแผนที่ดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ถอนชื่อผู้กู้ร่วม
ขั้นตอนแรก คือการติดต่อธนาคารที่ให้สินเชื่อ เพื่อแจ้งความประสงค์ในการถอนชื่อผู้กู้ร่วม ธนาคารจะพิจารณาคุณสมบัติของผู้ที่จะยังคงเป็นผู้กู้ เช่น รายได้ ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ และประวัติเครดิต โดยอาจมีเงื่อนไขเพิ่มเติม เช่น การเพิ่มวงเงินประกัน หรือการปรับอัตราดอกเบี้ย
รีไฟแนนซ์
การรีไฟแนนซ์ คือการขอสินเชื่อใหม่มาชำระหนี้สินเชื่อเดิม โดยมีเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงธนาคารหรือเปลี่ยนแปลงรูปแบบของสินเชื่อ สามารถช่วยลดภาระหนี้สิน หรือเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนระยะเวลาผ่อนชำระ หรือเปลี่ยนแปลงผู้กู้ร่วม แต่การรีไฟแนนซ์จะมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ค่าธรรมเนียมการประเมินราคาบ้าน ค่าดำเนินการ และค่าอากรแสตมป์ รวมถึงอาจทำให้ระยะเวลาผ่อนชำระยาวนานขึ้น จึงควรวางแผนการเงินให้ดีก่อนตัดสินใจ
ขายบ้าน
การขายบ้านเพื่อนำเงินมาชำระหนี้สินเชื่อเดิมจะทำให้สิ้นสุดสัญญากู้ร่วมและความรับผิดชอบต่อหนี้สิน โดยหากมูลค่าบ้านสูงกว่าหนี้สิน ก็อาจจะทำให้ได้รับเงินคืนส่วนต่าง แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาหากตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา รวมถึงอาจต้องเสียภาษีเงินได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งก่อนขายควรมีการพูดคุยและตกลงกันกับผู้ที่ซื้อบ้านชื่อร่วม เกี่ยวกับการขายและการแบ่งปันเงินที่ได้จากการขาย
การกู้ร่วมซื้อบ้านเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของบ้าน แต่ควรพิจารณาข้อดีข้อควรระวังให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ อีกทั้งยังควรเลือกบ้านที่ตอบโจทย์ถูกใจ ไม่ทำให้เสียดายในภายหลัง เลือกซื้อบ้านเดี่ยวกับโครงการในกรุงเทพฯ ที่มีคุณภาพจากอารียา พรอพเพอร์ตี้ ที่ผ่านการคัดสรรมาแล้วว่าใช้วัสดุเกรดพรีเมียม อยู่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก เพื่อเป็นเจ้าของบ้านเดี่ยวในฝันสำหรับทุกคนในครอบครัว
สนใจดูรายละเอียด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1797 หรือ LINE: @areeyahome
* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด
แหล่งอ้างอิง
สิ่งที่ควรรู้ ก่อนกู้ร่วมซื้อบ้าน. สืบค้นเมื่อวันที่ 27 กันยายน 2567 จาก https://www.taladnudbaan.com/blog/know-how-before-byhome