ตามฮวงจุ้ย เลือกบ้านหันหน้าทิศตะวันออก หรือบ้านหันหน้าทิศตะวันตก ดีกว่ากัน ?

เลือกบ้านหันหน้าทิศตะวันออก หรือบ้านหันหน้าทิศตะวันตก ดีกว่ากัน ?)

การเลือกซื้อบ้านถือเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้อยู่อาศัย หลายคนจึงใช้หลักฮวงจุ้ยเป็นแนวทางในการตัดสินใจ และหนึ่งในคำถามที่หลายคนสงสัยเมื่อวางแผนจะซื้อบ้าน ก็คือควรเลือกบ้านที่หันหน้าทิศไหนดี? และยิ่งในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน การเลือกบ้านหันหน้าทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตกจึงมีผลต่ออุณหภูมิ การใช้พลังงาน และตามหลักความเชื่อในด้านฮวงจุ้ยที่จะช่วยเสริมพลังงานดีในชีวิตของผู้อยู่อาศัย

เทียบข้อดี-ข้อเสีย ของบ้านหันหน้าทิศตะวันออก กับบ้านหันหน้าทิศตะวันตก เลือกทิศไหนดี?

บ้านหันหน้าทิศตะวันออก

เป็นทิศที่จะพบกันแสงแดดในตอนเช้า เป็นช่วงเดียวกับการที่ต้นไม้เริ่มผลิใบเพื่อรับแสงแดด ถือว่าทิศนี้เป็นทิศสะสมพลังงานแห่ง “ธาตุไม้”

ข้อดี:

  • รับแสงแดดอ่อนตอนเช้า: บ้านหันหน้าทิศตะวันออกจะได้รับแสงแดดอ่อนในช่วงเช้า ทำให้ภายในบ้านสว่างสดใสในตอนเริ่มต้นวัน และช่วยฆ่าเชื้อโรคหรือกลิ่นอับในบ้านได้ดี
  • เย็นสบายตอนบ่าย: เนื่องจากแสงแดดจะเคลื่อนผ่านไปทางทิศตะวันตกในช่วงบ่าย บ้านหันหน้าทิศตะวันออกจึงเย็นสบายและประหยัดพลังงานจากการใช้เครื่องปรับอากาศ
  • ฮวงจุ้ยส่งเสริมพลังงานบวก: ทิศตะวันออกตามหลักฮวงจุ้ยเกี่ยวข้องกับธาตุไม้ สื่อถึงการเริ่มต้นใหม่ ความก้าวหน้า และการเติบโต

ข้อเสีย:

หากบ้านหันหน้าทิศตะวันออกไม่มีการปลูกต้นไม้หรือใช้ม่านกันแดด อาจได้รับแสงแดดแรงในช่วงเช้า

บ้านหันหน้าทิศตะวันตก

เป็นทิศที่จะพบกับแสงแดดในตอนบ่าย เป็นช่วงที่อากาศเริ่มจะเย็นแล้ว ถือว่าทิศตะวันตกนี้เป็นทิศที่รับพลังงานของ “ธาตุทอง”

ข้อดี:

  • รับแสงแดดในช่วงเย็น: บ้านหันหน้าทิศตะวันตกเหมาะสำหรับคนที่ชื่นชอบการรับแสงแดดในช่วงเย็น โดยเฉพาะพื้นที่นั่งเล่นหรือสวนด้านหน้า
  • เหมาะสำหรับคนทำงานช่วงเช้า: หากคุณไม่อยู่บ้านในช่วงกลางวัน บ้านทิศตะวันตกจะไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากความร้อนมากนัก
  • ฮวงจุ้ยเสริมการป้องกันและสมดุล: ทิศตะวันตกในหลักฮวงจุ้ยสัมพันธ์กับธาตุโลหะ สื่อถึงการป้องกันและการคุ้มครอง

ข้อเสีย:

จะร้อนในช่วงบ่ายถึงเย็น เนื่องจากบ้านหันหน้าทิศตะวันตกจะโดนแสงแดดโดยตรงในช่วงเวลาที่อากาศร้อนที่สุด

ฮวงจุ้ยบ้านหันหน้าทิศตะวันออก บ้านหันหน้าทิศตะวันตก

คำแนะนำในการเลือกทิศบ้าน

บ้านหันหน้าทิศตะวันออก:

✓ เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการบ้านที่เย็นสบายในช่วงบ่าย

✓ ควรใช้ม่านกันแสงในบ้านตรงมุมที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก เพื่อป้องกันแสงแดดในช่วงเช้า

บ้านหันหน้าทิศตะวันตก:

✓ เหมาะสำหรับผู้ที่ทำงานนอกบ้านในช่วงกลางวันและกลับมาพักผ่อนในช่วงเย็น

✓ ควรออกแบบพื้นที่ด้านหน้าด้วยหลังคาหรือมีกันสาดยื่นออกมา และเลือกวัสดุที่ช่วยลดความร้อน หรือปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อช่วยลดความร้อน

สรุปแล้วการเลือกทิศบ้าน ไม่ว่าจะเลือกบ้านหันหน้าทิศตะวันออก หรือบ้านหันหน้าทิศตะวันตก ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัย หากต้องการบ้านที่เย็นสบายและเหมาะกับการเริ่มต้นวัน บ้านหันหน้าทิศตะวันออกเป็นทิศที่ตอบโจทย์ แต่หากชื่นชอบแสงแดดและเน้นการพักผ่อนในตอนเย็น บ้านหันหน้าทิศตะวันตกก็เป็นตัวเลือกที่ดี

ไม่ว่าบ้านจะหันไปทางทิศใด การออกแบบบ้านที่เหมาะสม เช่น การปลูกต้นไม้ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และการใช้วัสดุที่ช่วยลดความร้อน จะยิ่งช่วยให้เจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยมีความสุขและสะดวกสบายที่สุด คลิกดูโครงการบ้าน และทาวน์โฮมคุณภาพ จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ ที่มีฟังก์ชันรองรับการอยู่อาศัยของทุกคนในครอบครัว และยังตอบโจทย์ความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ย มีหลากหลายทิศทาง หลากหลายทำเลศักยภาพให้เลือกตามความต้องการ ที่ www.areeya.co.th

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :
https://www.banidea.com/feng-shui-home-direction/

https://www.home.co.th/living/topic-3338

awsa

แนะนำ 4 ไอเดีย แต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์ต่าง ๆ

แนะนำ 4 ไอเดีย แต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์ต่าง ๆ

ห้องนอนสไตล์มินิมอล เป็นการแต่งห้องนอนมินิมอลด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น อย่างการใช้เตียงอเนกประสงค์ที่ใช้งานได้หลากหลายฟังก์ชัน และเฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย ซึ่งสไตล์มินิมอลนั้นจะเน้นใช้โทนสีอ่อน โมโนโทน หรือเอิร์ธโทน การตกแต่งห้องนอนสไตล์มินิมอลจะเหมาะสำหรับความผ่อนคลาย สงบ และสบายตา เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่ายแต่มีสไตล์

อารียาฯ มี 4 ไอเดีย แต่งห้องนอนมินิมอล ที่ส่วนใหญ่จะเน้นการใช้งานพื้นที่ใช้สอยอย่างคุ้มค่า บรรยากาศที่สะอาดตา ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลาย ด้วยการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์เรียบง่าย แต่ยังคงความมีสไตล์ และใช้งานได้จริง ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอลเหล่านี้ สามารถเชฟเก็บไว้ไปทำตามกันได้เลย

1. ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์แรก แบบโคซี่อบอุ่น

ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์โคซี่ อบอุ่น

วางเฟอร์นิเจอร์และฟูกนอนกับพื้น

แต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์โคซี่ ด้วยการวางฟูกนอน เฟอร์นิเจอร์ และของประดับห้องไว้กับพื้น จะทำให้ห้องนอนมีความมินิมอลมากขึ้น

แต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์โคซี่ โดยเพิ่มของใช้เครื่องไม้ หรือหวาย

ของใช้และของประดับตกแต่งประเภทงานสาน หรือไม้สีอ่อน จะให้ห้องดูมีความอบอุ่นโฮมมี่ เช่น ตะกร้าหวาย เก้าอี้ไม้ โคมไฟไม้ มู่ลี่ไม้

กระจกเก๋ ๆ ช่วยให้ห้องดูกว้าง และมินิมอลมากขึ้น

แต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์โคซี่ ด้วยการนำกระจกเงาเก๋ ๆ สักบานมาวางหรือติดไว้ในห้องนอน เหมาะมากสำหรับห้องนอนขนาดเล็ก จะยิ่งทำให้ห้องนอนดูกว้างขึ้นได้ อาจะใช้เป็นกระจกติดผนัง หรือกระจกตั้งพื้นเต็มตัวก็ได้

ปลูกต้นไม้และประดับด้วยดอกไม้ในห้อง

ทริกสุดท้ายสำหรับการแต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์อบอุ่น คือการปลูกต้นไม้ฟอกอากาศนั่นเอง นอกจากจะเพิ่มความสวยงามแล้ว ยังเป็นการเพิ่มพลังธรรมชาติให้กับห้องนอนเรียบ ๆ ได้เป็นอย่างดี หรือประดับตกแต่งด้วยแจกันดอกไม้สีขาวสักช่อ ก็เพิ่มความน่ารักอบอุ่นได้ไม่น้อย

2. ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอลผสานความเป็นธรรมชาติ

ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอล เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

เลือกเตียงให้มีเอกลักษณ์

แต่งห้องนอนมินิมอลให้เรียบง่ายที่สุด ไม่จำเป็นจะต้องใช้เฟอร์นิเจอร์เยอะ ลองเปลี่ยนจากเตียงธรรมดาทั่วไปเป็นเตียงบิวต์อินโดยแมตช์โครงเตียงให้เข้ากับหัวเตียงและโต๊ะข้างเตียง จะช่วยให้ห้องนอนดูเป็นระเบียบ แถมยังรู้สึกอบอุ่นน่าพักผ่อน

แต่งห้องนอนมินิมอลเรียบง่าย แค่ใช้พื้นไม้ตัดกับผนังห้องสีขาวก็เพียงพอ

แต่งห้องนอนมินิมอล หากจะใช้สีขาวไปทั้งหมดคงจะน่าเบื่อ ให้ใช้พื้นไม้ที่มีลวดลายและสีธรรมชาติเป็นตัวช่วย สีตัดกันกับตัวห้องสีขาว สีครีม ช่วยทำให้ห้องนอนดูมีมิติสบายตามากขึ้น และเสริมด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อนก็ยิ่งทำให้ห้องนอนดูมินิมอลมากยิ่งขึ้นไปอีก

แต่งห้องนอนมินิมอลธรรมชาติ ด้วยต้นไม้ ดอกไม้เพิ่มความสดชื่น

แต่งห้องนอนมินิมอลให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ลองเสริมความสดชื่นเป็นธรรมชาติเข้าไปในห้องนอนด้วยต้นไม้ฟอกอากาศหรือแจกันช่อดอกไม้เรียบง่าย โดยเลือกสีโทนอ่อนที่ไม่ฉูดฉาดเกินไป ให้เข้ากับเตียงไม้ ก็จะช่วยให้ห้องนอนเรียบ ๆ ดูสดชื่นขึ้นได้ไม่น้อย ตอบโจทย์คนที่ชื่นชอบความเรียบง่ายและเข้าถึงความเป็นธรรมชาติไปในตัว

3. แต่งห้องนอนมินิมอลโทนสีขาวดำ สวย เท่ สุดทางทุกมุมมอง

แต่งห้องนอนมินิมอล โทนสีขาวดำ สวย เท่ สุดทางทุกมุมมอง

แต่งห้องนอนมินิมอลไอเดียต่อมา เป็นการแต่งห้องนอนมินิมอลในโทนสีขาวดำ คู่สีเบสิกที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ปลอดภัย แต่ดูเท่และมีสไตล์มินิมอลที่ไม่เหมือนใครอีกด้วย เลือกใช้สีจของตัวห้องนอนเป็นสีขาวสะอาดตา และตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีดำที่ดูสุขุมนุ่มลึก เสริมด้วยของตกแต่งที่ดีไซน์แหวกแนวไม่เหมือนใคร ทำให้ห้องนอนสไตล์นี้เท่ น่าค้นหา มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ตอบโจทย์คนเท่ ๆ ที่ชอบความโมเดิร์นมินิมอลแบบสุดทาง

4. แต่งห้องนอนมินิมอลเรียบ ๆ เน้นความสว่าง โปร่ง โล่ง

ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอลสไตล์สุดท้าย เน้นไปที่ความโมเดิร์น เรียบง่าย สว่าง โปร่ง โล่ง ให้เลือกใช้โทนสีเรียบอย่างสีขาว เทา ครีม หรือโทนสีอ่อนที่ช่วยให้ห้องดูโปร่ง และสงบ หากภายในห้องยิ่งมืดอึมครึม อึดอัด หมองหม่น จะยิ่งทำให้ห้องไม่น่าอยู่ ใครที่อยากแต่งห้องนอนให้โมเดิร์น มินิมอล ต้องใส่ใจเรื่องแสงธรรมชาติเป็นหลักด้วย ซึ่งบริเวณที่สำคัญอย่างเตียงนอน หรือโต๊ะทำงานควรจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ เพื่อให้แสงธรรมชาติสอดส่องเข้ามา นอกจากนี้แสงธรรมชาติยังช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนแห่งความสุข แถมยังช่วยปรับบรรยากาศของห้องให้น่าอยู่ ใช้เวลาพักผ่อนได้เต็มที่ไอเดียแต่งห้องนอนมินิมอล เน้นความสว่าง โปร่ง โล่ง

การแต่งห้องนอนมินิมอล เน้นให้ความรู้สึกที่ดูสะอาด สงบ และเรียบง่าย ทำให้สามารถผ่อนคลาย นอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ อีกทั้งห้องนอนมินิมอลควรเลือกใช้วัสดุที่ดี มีคุณภาพ มีฟังก์ชันที่ตอบโจทย์การใช้งานได้จริง และมีการจัดระเบียบที่ดีในทุกพื้นที่ สนใจโครงการบ้านมินิมอลจากอารียาฯ ที่โดดเด่นด้วยดีไซน์และฟังก์ชันของความมินิมอลแต่ละสไตล์ ตอบโจทย์กับชีวิตคนยุคใหม่ที่หลงใหลในความมินิมอล เรียบง่าย เข้าไปชมโครงการต่าง ๆ กันได้เลย ที่

  • NORA ทาวน์โฮมสไตล์ Minimal Cozy ราคาเริ่ม 99 ลบ.*

คลิก https://areeya.co.th/brand/nora/

  • COMO BIANCA II บ้านสไตล์ Minimal Eco Living ราคาเริ่ม 29 ลบ.*

คลิก https://areeya.co.th/singlehome/como-bianca-bangna/

  • AREN 2 บ้านสไตล์ Modern Minimal ราคาเริ่ม 99 ลบ.*

คลิก https://areeya.co.th/singlehome/aren-2/

  • AREN X บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Minimal ราคาเริ่ม 9 ลบ.*

คลิก https://areeya.co.th/singlehome/aren-x/

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

หรือคลิกดูโครงการอื่น ๆ จากอารียาฯ เพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th บ้านคุณภาพ บนหลากหลายทำเลศักยภาพที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการของทุกคนในบ้าน

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :
https://tostemthailand.com/2023/06/21/the-inspiring-of-black-white/
https://www.baanlaesuan.com/18544/ideas/040915-ideas
https://www.toagroup.com/th/blogs/toa-home-idea-painting/238/how-to-create-a-korean-style-bedroom
https://www.jorakay.co.th/blog/owner/color-wall/how-to-design-a-minimalistic-japanese-style-house
https://www.kkday.com/th/blog/15217/10-minimalist-korea-style-bedroom-decoration-ideas?srsltid=AfmBOoru6UuQropBaDAYm_HxqybhsgEaszJaEO9WuBozsUcgh0twPlXk
https://www.sermthaisteelworks.com/post/30-%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94-%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%95-%E0%B8%87%E0%B8%AB-%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5-%E0%B8%A1-%E0%B8%99-%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%A5-%E0%B9%82%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%AA-%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B2-%E0%B8%AA%E0%B8%A7%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%97-%E0%B8%97-%E0%B8%81%E0%B8%A1-%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%87

awsa

ไล่แมลงสาบวิธีนี้ได้ผลชัวร์ แมลงสาบกลัว ไม่กลับมากวนใจ

วิธีไล่แมลงสาบ

การเจอแมลงสาบในบ้านไม่ใช่เรื่องที่ใครอยากเจอ เพราะนอกจากจะทำให้รู้สึกไม่สบายใจแล้ว ยังเป็นสัญญาณของความสกปรกที่แฝงมาพร้อมกับเชื้อโรคต่าง ๆ แต่หลายคนอาจลังเลที่จะใช้สารเคมีแรง ๆ เพื่อไล่แมลงสาบ เนื่องจากกลัวผลกระทบทั้งต่อตัวเอง คนในครอบครัว สัตว์เลี้ยง และสิ่งแวดล้อม

แทนที่จะพึ่งพาวิธีที่เสี่ยงต่อสุขภาพ ลองหันมาใช้วิธีธรรมชาติซึ่งปลอดภัยแต่ก็ยังได้ผลดีในการไล่แมลงสาบกันดู ไม่ว่าคุณจะอยากป้องกันบ้านจากแมลงสาบหรือต้องการหาวิธีไล่แมลงสาบที่เข้ามากวนใจ วิธีธรรมชาติที่ใช้วัตถุดิบง่าย ๆ รอบตัวเหล่านี้สามารถช่วยไล่แมลงสาบ จัดการกับปัญหาได้อย่างสบายใจ

รู้จักกับอันตรายจากแมลงสาบ ก่อนไล่แมลงสาบกัน

แมลงสาบไม่ใช่แค่เพียงสัตว์ที่น่าขนลุก แต่ยังเป็นพาหะนำเชื้อโรคต่าง ๆ มาสู่คนด้วย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และสารก่อภูมิแพ้ ที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้และโรคต่าง ๆ ตามมา เช่น โรคหอบหืด โรคท้องร่วง นอกจากนี้ แมลงสาบยังมีพฤติกรรมชอบซ่อนตัวในที่มืดและชื้น  ตามห้องครัว ห้องน้ำ หรือรอยแตกในบ้าน ซึ่งเป็นจุดที่แมลงสาบสามารถเจริญเติบโตได้ดี

วิธีไล่แมลงสาบแบบธรรมชาติ

น้ำมันสะเดา และน้ำมันเปปเปอร์มินต์มีคุณสมบัติที่แมลงสาบไม่ชอบ เพียงหยดลงบนสำลีแล้วนำไปวางในจุดที่พบแมลงสาบบ่อย หรือนำไปผสมกับน้ำเปล่าจากนั้นนำไปฉีดพ่นตามจุดที่แมลงสาบชอบอยู่ เช่น มุมห้อง ซอกมุมในห้องครัว หรือห้องน้ำ จะช่วยไล่แมลงสาบออกไปได้ เพราะแมลงสาบไม่ชอบ 2 กลิ่นนี้

2. เบกกิ้งโซดาและน้ำตาล

การไล่แมลงสาบด้วยเบกกิ้งโซดาและน้ำตาลเป็นวิธีธรรมชาติที่มีประสิทธิภาพ เพียงผสมเบกกิ้งโซดากับน้ำตาลในอัตราส่วน 1:1 แล้วโรยในบริเวณที่มักพบแมลงสาบ เช่น ซอกมุมห้องครัว หรือใต้อ่างล้างจาน แมลงสาบจะถูกดึงดูดด้วยความหวานของน้ำตาล และจากนั้นเมื่อกินเข้าไป เบกกิ้งโซดาจะทำปฏิกิริยาภายในตัวแมลงสาบ ทำให้ตายได้โดยไม่ต้องใช้สารเคมี

3. เปลือกส้มและเลมอน

การใช้เปลือกส้มและเลมอนเป็นอีกหนึ่งวิธีไล่แมลงสาบแบบธรรมชาติที่ได้ผลดี เนื่องจากแมลงสาบไม่ชอบกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวเหล่านี้ เพียงแค่นำเปลือกส้มหรือเลมอนไปวางไว้ตามซอกมุมอับต่าง ๆ ในบ้าน ตามห้องครัว ห้องน้ำ กลิ่นหอมของเปลือกส้มและเลมอนจะช่วยไล่แมลงสาบให้ออกไปโดยง่าย

4. น้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่า

น้ำส้มสายชูผสมน้ำเปล่าก็เป็นตัวช่วยไล่แมลงสาบที่ทำได้ง่ายและปลอดภัย เพียงผสมน้ำส้มสายชูกับน้ำเปล่าในอัตราส่วน 1:1 แล้วเทบรรจุใส่ขวดสเปรย์ จากนั้นฉีดพ่นบริเวณที่มักพบแมลงสาบบ่อย ๆ เช่น ใต้อ่าง หรือตามมุมห้องครัว กลิ่นฉุนของน้ำส้มสายชูจะรบกวนประสาทรับกลิ่นของแมลงสาบ ทำให้มันไม่กล้าเข้ามาใกล้และจะหนีออกไปอย่างงายดาย

5. หัวหอมและกระเทียมบด

หัวหอมและกระเทียมบดเป็นตัวช่วยไล่แมลงสาบแบบธรรมชาติที่ใช้ได้ผลดี เพียงแค่บดหัวหอมและกระเทียมให้ละเอียด แล้ววางไว้ตามจุดที่แมลงสาบมักจะเดินผ่าน เช่น มุมห้องครัว ห้องน้ำ ฝาท่อ กลิ่นแรงของหัวหอมและกระเทียมจะรบกวนการรับกลิ่นของแมลงสาบ ทำให้มันไม่กล้าเข้ามาในบริเวณนั้นแน่นอน

การป้องกันแมลงสาบเข้าบ้านในระยะยาว

วิธีไล่แมลงสาบ กำจัดเศษอาหาร

  • ทำความสะอาดบ้านอยู่เสมอ ระวังอย่าให้มีความชื้นอยู่ภายในบ้าน และกำจัดเศษอาหารทุก ๆ มื้ออย่าให้หมักหมม หากมีเศษอาหารเหลือทิ้งลองนำไปทำเป็นปุ๋ยออร์แกนิก เพิ่มประโยชน์ให้กับต้นไม้ และสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย
  • อุดรอยแตกและช่องว่างตามกำแพงให้หมด เพราะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและช่องทางที่แมลงสาบจะเข้ามาในบ้านได้
  • ดูแลแหล่งที่ทิ้งขยะให้สะอาดและปิดฝาถังขยะอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งอาหารของแมลงสาบ

การไล่แมลงสาบด้วยวิธีธรรมชาติไม่เพียงช่วยให้บ้านปลอดภัยจากสารเคมี แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้แมลงสาบกลับมากวนใจอีกในระยะยาว ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ เพื่อให้บ้านของปลอดภัยและปลอดเชื้อโรคจากแมลงสาบ แต่สิ่งสำคัญต้องอย่าลืมหมั่นทำความสะอาดบ้านกันอยู่เสมอด้วย

สนใจโครงการบ้านเดี่ยว และทาวน์โฮม จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ คลิกดูรายละเอียดที่ https://areeya.co.th/ โครงการบ้านคุณภาพ บนหลากหลายทำเลศักยภาพ รายล้อมไปด้วยสภาพแวดล้อมที่สะอาด น่าอยู่ ตอบโจทย์ชีวิตที่ลงตัวของทุกคนในครอบครัว

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :

https://www.rentokil.com/th/pest-tips/blog/diy-cockroach-repellent-tips-for-your-home

https://www.youtube.com/watch?v=nxJG2zL0LX4

https://www.jorakay.co.th/blog/owner/other/how-to-remove-cockroaches-in-a-nesting-house

awsa

เช็กเลย! วันดี วันมงคล ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568

เช็กเลย! วันดี วันมงคล ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568

การเลือกฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 ควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น วันเดือนปีที่มีความเป็นมงคล และเหมาะสมกับดวงชะตาของเจ้าของบ้าน การเลือกฤกษ์ที่ดีตามหลักโหราศาสตร์จะช่วยเสริมสร้างพลังบวกให้กับบ้านใหม่ โดยมักจะพิจารณาจาก วัน เวลา ที่ดาวหรือพลังต่าง ๆ ส่งผลดี เช่น ดาวเจ้าเรือนในตำแหน่งที่ดี หรือไม่มีดาวที่ส่งผลเสีย ซึ่งจะช่วยเสริมโชคลาภ ปัดเป่าสิ่งไม่ดี และนำความสุขมาสู่เจ้าของบ้านและครอบครัว การเลือกฤกษ์ถือเป็นการเสริมสร้างพลังบวกและความเป็นสิริมงคลให้กับบ้านและชีวิตของเจ้าของบ้าน

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนมกราคม

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนกุมภาพันธ์

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนมีนาคม

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันพุธที่ 5 มีนาคม 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันอังคารที่ 11 มีนาคม 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันพุธที่ 12 มีนาคม 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันพุธที่ 19 มีนาคม 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 23 มีนาคม 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันอังคารที่ 25 มีนาคม 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันพุธที่ 26 มีนาคม 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 เกิดวันอาทิตย์ห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 30 มีนาคม 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนเมษายน

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันอังคารที่ 1 เมษายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันอังคารที่ 8 เมษายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันพุธที่ 9 เมษายน 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันอังคารที่ 15 เมษายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันอังคารที่ 22 เมษายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันพุธที่ 23 เมษายน 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนพฤษภาคม

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนมิถุนายน

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนกรกฎาคม

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันอังคารที่ 8 กรกฎาคม 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม 2568 เกิดวันอาทิตย์ห้ามใช้

วันศุกร์ที่ 25 กรกฎาคม 2568 เกิดวันอาทิตย์ห้ามใช้

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม 2568 เกิดวันพฤหัสบดีห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนสิงหาคม

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนสิงหาคม

วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม 2568 เกิดวันพฤหัสบดีห้ามใช้

วันศุกร์ที่ 22 สิงหาคม 2568 เกิดวันอาทิตย์ห้ามใช้

วันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 เกิดวันพฤหัสบดีห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนกันยายน

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนตุลาคม

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันพุธที่ 22 ตุลาคม 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันอังคารที่ 28 ตุลาคม 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม 2568 เกิดวันอาทิตย์ห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนพฤศจิกายน

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันจันทร์ที่ ​ 10 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันอังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันจันทร์ห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันอังคารที่ 18 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันพุธห้ามใช้

วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

ฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 เดือนธันวาคม

ฤกษ์ดีขึ้นบ้านใหม่

วันพุธที่ 3 ธันวาคม 2568 เกิดวันเสาร์ห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 22 ธันวาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

วันจันทร์ที่ 29 ธันวาคม 2568 เกิดวันอังคารห้ามใช้

นอกจากนี้ การดูฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 ควรต้องมีการพิจารณาเกี่ยวกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น สภาพแวดล้อม บ้านที่อยู่อาศัยจะต้องสะอาด และปราศจากสิ่งที่อาจทำให้เกิดอัปมงคล รวมถึงการทำพิธีเสริมความมงคลเพื่อเสริมสิริมงคลให้กับบ้านใหม่ หากต้องการฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 ที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น สามารถปรึกษาผู้รู้ในด้านโหราศาสตร์ไทยเพื่อให้ได้ฤกษ์ที่เหมาะสมที่สุดตามลักษณะของบ้าน และดวงชะตาเจ้าของบ้านในปี 2568

นอกจากการเช็กเรื่องฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ 2568 แล้ว แนะนำให้เลือกบ้านโครงการบ้านดี ๆ มีคุณภาพ อยู่ได้ยาวนาน จากโครงการบ้านและทาวน์โฮมของอารียาฯ บนหลากหลายทำเลศักยภาพ คลิกดูโครงการที่ www.areeya.co.th

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :
https://home.kapook.com/view286160.html

 

awsa

เลือกซื้อบ้านหันหน้าทิศเหนือ หรือบ้านหันหน้าทิศใต้ ดีกว่ากัน? ตามหลักฮวงจุ้ย

เลือกซื้อบ้านหันหน้าทิศเหนือ หรือเลือกซื้อบ้านหันหน้าทิศใต้ดีกว่ากัน?)

การเลือกซื้อบ้านเป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่ไม่เพียงแต่พิจารณาถึงเรื่องทำเลที่ตั้ง โครงสร้าง และความสะดวกสบายเท่านั้น แต่จากความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยแล้ว ทิศทางของตัวบ้านก็มีผลต่อดวงชะตาการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมความความสุข เจริญรุ่งเรืองทั้งในด้านการงาน การเงิน สุขภาพ และความสัมพันธ์ของเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยด้วย หลายคนคงเกิดคำถามว่าแล้วควรหันหน้าบ้านไปทางทิศไหน? บ้านหันหน้าทิศเหนือ หรือบ้านหันหน้าทิศใต้ ดีกว่ากัน? อารียาฯ จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับความแตกต่างและข้อดีของบ้านทั้งสองทิศทางตามหลักฮวงจุ้ยกัน

บ้านหันหน้าทิศเหนือ และบ้านหันหน้าทิศใต้ มีข้อดี-ข้อจำกัดที่แตกต่างกันทั้งตามหลักฮวงจุ้ยและตามหลักความจริงของธรรมชาติ

ฮวงจุ้ยบ้านหันหน้าทิศเหนือ บ้านหันหน้าทิศใต้

บ้านหันหน้าทิศเหนือ

  • ตามหลักฮวงจุ้ย: ทิศเหนือเป็นตัวแทนของพลังงาน “หยิน” ซึ่งมีความสงบและเยือกเย็น เหมาะกับการพักผ่อน ในเชิงฮวงจุ้ย ทิศเหนือจะเชื่อมโยงกับ “ธาตุน้ำ” ซึ่งส่งเสริมความลื่นไหลและความสมดุลในชีวิต จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเงียบสงบในการใช้ชีวิต
  • ข้อดี: ทิศเหนือเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดน้อยกว่าทิศอื่นๆ โดยเฉพาะในช่วงบ่าย ทำให้ตัวบ้านโปร่ง เย็นสบายกว่าทิศอื่น
  • ข้อจำกัด: อาจขาดพลังงานความกระตือรือร้น และอาจทำให้บ้านดูอึมครึม หากออกแบบบ้านไม่ดี

บ้านหันหน้าทิศใต้

  • ตามหลักฮวงจุ้ย: ทิศใต้เป็นตัวแทนของพลังงาน “หยาง” ซึ่งมีความกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา ทิศใต้จะเชื่อมโยงกับ “ธาตุไฟ” ที่ช่วยส่งเสริมชื่อเสียงและความเจริญรุ่งเรือง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพลังงานเพื่อเสริมความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
  • ข้อดี: ทิศใต้เป็นทิศที่รับลมธรรมชาติอย่างเต็มที่ เนื่องจากลมส่วนใหญ่มักพัดมาจากทางทิศใต้ ทำให้ตัวบ้านเย็นสบาย และบ้านหันหน้าทิศใต้ก็ยังได้รับแสงแดดในช่วงเช้าและกลางวัน จึงช่วยลดการใช้ไฟฟ้าในเวลากลางวันได้ อีกทั้งยังเหมาะกับการปลูกต้นไม้ ช่วยลดความอับชื้นในอากาศ
  • ข้อจำกัด: หากไม่มีการปลูกต้นไม้หรือออกแบบบ้านให้ระบายความร้อนได้ดี อาจร้อนมากในช่วงบ่าย เนื่องจากแสงแดดส่องถึงเต็มที่ และควรระวังเรื่องความเข้มข้นของพลังงานหยางที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความเครียดได้

เปรียบเทียบระหว่างบ้านหันหน้าทิศเหนือ กับบ้านหันหน้าทิศใต้

 

 

ความแตกต่าง บ้านหันหน้าทิศเหนือ บ้านหันหน้าทิศใต้
พลังงานตามหลักฮวงจุ้ย พลังแห่งความสงบและผ่อนคลาย พลังแห่งความกระฉับกระเฉงและสดใส
อากาศและแสงภายในบ้าน เย็นสบาย แต่อาจมืดในบางมุม

อากาศถ่ายเทดี

แต่แดดร้อนในตอนกลางวัน

คนอยู่อาศัย เหมาะกับผู้ที่ต้องการความสงบ ความสมดุลในชีวิต

ผู้ที่ต้องการความเจริญก้าวหน้า

และความสำเร็จ

 

แต่ไม่ว่าจะเลือกบ้านหันหน้าทิศไหน การจัดบ้านให้เหมาะสมตามหลักฮวงจุ้ยก็เป็นสิ่งสำคัญ ยิ่งช่วยส่งเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับการอยู่อาศัยได้ อารียาฯ มีเคล็ดลับการปรับเสริมฮวงจุ้ยตามทิศทางมาแนะนำให้ลองทำตามกัน

เคล็ดลับการปรับเสริมฮวงจุ้ยตามทิศทาง

  • วางกระจกเงาหรือสัญลักษณ์ของน้ำไว้ในบ้านหันหน้าทิศเหนือ เพื่อเสริมพลังแห่งความสมดุล และเพิ่มแสงสว่างภายในบ้าน
  • ใช้สีแดงหรือธาตุไฟในบ้านหันหน้าทิศใต้ เพื่อเพิ่มพลังงานความกระตือรือร้น และปลูกต้นไม้ใหญ่บังแดดตัวบ้าน

เพียงเท่านี้ก็จะได้บ้านที่น่าอยู่ทั้งในแง่ของพลังงานฮวงจุ้ย และตอบโจทย์การใช้งานจริงอีกด้วย

สรุปแล้ว หากถามว่าควรเลือกบ้านหันหน้าทิศไหนดี? การเลือกทิศทางบ้านที่เหมาะสมก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยนั่นเอง หากชอบความสงบและต้องการพื้นที่พักผ่อนที่เย็นสบาย บ้านหันหน้าทิศเหนือถือเป็นตัวเลือกที่ดี แต่หากต้องการความมีชีวิตชีวา กระตือรือร้น และพร้อมรับลมธรรมชาติ บ้านหันหน้าทิศใต้ ก็น่าจะเหมาะสมกว่า ทั้งนี้ควรคำนึงถึงการออกแบบบ้านด้วย เช่น การจัดวางหน้าต่าง การปลูกต้นไม้ และการจัดเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศและพลังงานที่ต้องการจากทิศทางบ้านนั้น ๆ เพื่อการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขและเกิดความสมดุลในชีวิตอย่างแท้จริง

สนใจโครงการบ้าน และทาวน์โฮมคุณภาพ จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ ที่มีฟังก์ชันรองรับการอยู่อาศัยของทุกคนในครอบครัว และยังตอบโจทย์ความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ย มีหลากหลายทิศทาง หลากหลายทำเลศักยภาพให้เลือกตามความต้องการ คลิกดูโครงการต่าง ๆ ที่ www.areeya.co.th

awsa

เคล็ดลับแต่งบ้านสไตล์ Minimal Cozy ให้ดูอบอุ่นและน่าอยู่

การสร้างพื้นที่ที่สงบและเป็นส่วนตัวเพื่อการผ่อนคลายเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตปัจจุบัน นั่นทำให้การแต่งบ้านสไตล์ Minimal Cozy ซึ่งผสานระหว่างความเรียบง่ายแบบมินิมอลและความอบอุ่นน่าอยู่แบบ Cozy กำลังได้รับความนิยม ตอบโจทย์ผู้ที่รักความเรียบง่ายและใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยเฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น ดีไซน์เรียบง่าย และการจัดวางที่โปร่งโล่ง ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้บ้านดูสบายตา เหมาะสำหรับบ้านทุกประเภท โดยเฉพาะบ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นที่มีพื้นที่จำกัด

การแต่งบ้านสไตล์ Minimal Cozy

การตกแต่งบ้านสไตล์ Minimal Cozy

สไตล์ Minimal Cozy เป็นการตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย โปร่งโล่ง โดยลดจำนวนเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งที่ไม่จำเป็น เน้นการเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ และโทนสีอ่อนที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพิ่มบรรยากาศอบอุ่น น่าอยู่ บ้านในสไตล์นี้ให้ความสำคัญกับการจัดสรรพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสงบและมุมผ่อนคลายที่สัมผัสถึงความเรียบง่าย

ไอเดียการจัดบ้านสไตล์มินิมอลโคซี่

สำหรับการตกแต่งบ้านสไตล์มินิมอลโคซี่ มีหลายไอเดียดี ๆ ที่จะช่วยให้บ้านดูสวยงามและสบายตามากขึ้น โดยมีคำแนะนำดังนี้

การใช้พื้นที่ภายในบ้านอย่างมีประสิทธิภาพ

เริ่มต้นจากการใช้พื้นที่ภายในบ้านให้คุ้มค่ามากที่สุด โดยการจัดระเบียบและเก็บสิ่งของที่ไม่จำเป็นในพื้นที่เก็บของหรือตู้เก็บของซ่อนรูป เพื่อให้พื้นที่ภายในบ้านมีความโล่ง โปร่ง และเน้นการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์แบบมัลติฟังก์ชัน เช่น โต๊ะทำงานที่สามารถพับเก็บได้ เตียงที่มีพื้นที่เก็บของใต้เตียง หรือชั้นวางของแบบติดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่

เลือกโทนสีอ่อนเพื่อเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลาย

การเลือกโทนสีของผนัง เฟอร์นิเจอร์ และของตกแต่งให้เป็นโทนสีอ่อนจะช่วยให้บ้านดูกว้างและสว่างขึ้น แนะนำใช้สีขาว ครีม สีเทาอ่อน หรือน้ำตาลอ่อน ซึ่งจะสะท้อนความเรียบง่ายและอบอุ่น รวมถึงการใช้สีไม้ที่ให้ความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติ ความสงบที่เหมาะกับการพักผ่อน

เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแต่มีคุณภาพ

อีกหนึ่งเทคนิคการแต่งบ้านสไตล์ Minimal Cozy ให้ดูโปร่งโล่ง คือการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้น แต่ละชิ้นควรมีดีไซน์ที่เรียบง่าย ทนทานและมีคุณภาพสูง เช่น โต๊ะไม้ที่มีดีไซน์ทันสมัย หรือเก้าอี้ผ้าเนื้อนุ่มที่นั่งสบาย รวมถึงเลือกชิ้นที่มีฟังก์ชันหลากหลาย ซึ่งจะช่วยให้บ้านดูโปร่งขึ้น และช่วยลดการใช้พื้นที่โดยไม่จำเป็น

เพิ่มความอบอุ่นด้วยของตกแต่ง

การตกแต่งบ้านสไตล์ Cozy ให้ความสำคัญกับความนุ่มนวลของเนื้อผ้าและการสัมผัสที่สบาย เช่น การเพิ่มหมอน ผ้าห่ม พรมพื้นผิวอ่อนนุ่ม นำไปวางตามมุมต่าง ๆ ของบ้าน จะช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้แก่บ้าน และยังช่วยสร้างมุมผ่อนคลายที่น่าอยู่

เปิดรับแสงธรรมชาติให้บ้านโปร่งโล่ง

แสงธรรมชาติเป็นส่วนสำคัญในการแต่งบ้านสไตล์ Minimal Cozy ให้ดูสดใสและสบายตา การมีบานหน้าต่างรับแสงขนาดใหญ่พร้อมที่นั่ง ที่ปล่อยให้แสงส่องเข้ามาได้ หรือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้แสงส่องถึงทุกมุมบ้าน จะช่วยเพิ่มความสว่างและความสดชื่น อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าและทำให้บ้านดูโปร่งโล่งขึ้นอีกด้วย

การจัดบ้านสไตล์มินิมอลโคซี่

เคล็ดลับการจัดบ้าน Minimal Cozy ให้เข้ากับพื้นที่บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น

บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้นมักจะมีพื้นที่จำกัด ดังนั้น การใช้เทคนิคการจัดบ้านในสไตล์ Minimal Cozy จะช่วยให้บ้านดูโปร่งโล่งสบายตามากขึ้น โดยมีเคล็ดลับดังนี้

  • ใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการจัดเก็บในตัว : เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีฟังก์ชันการจัดเก็บ เช่น ชั้นวางทีวีที่มีช่องเก็บของหรือโต๊ะทำงานที่มีลิ้นชัก จะช่วยเก็บของได้สะดวกและเป็นระเบียบมากขึ้น
  • การจัดห้องนอนให้โปร่งและผ่อนคลาย : ห้องนอน เป็นห้องที่ต้องการความสงบและผ่อนคลายมากที่สุด การใช้เตียงที่มีหัวเตียงเป็นแบบเรียบ ๆ และใช้ผ้าห่มสีอ่อนจะช่วยให้ห้องดูเรียบง่ายและผ่อนคลาย
  • สร้างมุมพักผ่อนส่วนตัว : จัดวางเก้าอี้หรือโซฟาเล็ก ๆ ที่มีผ้าห่มและหมอนใกล้บานหน้าต่างรับแสงขนาดใหญ่เพื่อสร้างมุมพักผ่อน หรือพื้นที่เล็ก ๆ สำหรับช่วงผ่อนคลายในแต่ละวัน

หากคุณกำลังมองหาบ้านใหม่ที่ตอบโจทย์สไตล์ Minimal Cozy ที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย โครงการ NORA บ้านทาวน์โฮม 2 ชั้น ที่มาพร้อม Oversized Window Seat บานหน้าต่างรับแสงขนาดใหญ่พร้อมที่นั่ง จาก อารียา พรอพเพอร์ตี้ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยทำเลศักยภาพย่านบางนา และชัยพฤกษ์-วงแหวน โครงการนี้มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยที่สามารถตกแต่งให้เป็นบ้านในฝันในสไตล์ Minimal Cozy ได้ง่าย ๆ ให้คุณได้ใช้ชีวิตอย่างสะดวกสบายและผ่อนคลายมากยิ่งขึ้น

สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1797 หรือ LINE: @areeyahome

 

แหล่งอ้างอิง

awsa

ขั้นตอนเตรียมของขึ้นบ้านใหม่แบบง่าย ๆ ให้ไม่พลาดทุกสิ่งสำคัญ

คู่รักที่มีความสุขกับการย้ายบ้าน หลังผ่านการเตรียมของขึ้นบ้านใหม่

การเป็นเจ้าของบ้านในฝัน เป็นสิ่งที่ใครหลายคนตั้งความหวังไว้ และเมื่อถึงคราวที่ต้องมีการย้ายเข้าบ้านใหม่ เชื่อว่าต้องเป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและเต็มไปด้วยความสุขอย่างแน่นอน แต่ขณะเดียวกันก็อาจเป็นช่วงเวลาที่ยุ่งเหยิงและวุ่นวายหากไม่เตรียมตัวให้ดี โดยเฉพาะในการเตรียมของขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งเป็นประเพณีที่ขาดไม่ได้

ความสำคัญของการจัดงานขึ้นบ้านใหม่

การขึ้นบ้านใหม่  ไม่ใช่เพียงแค่การย้ายข้าวของเข้าสู่บ้านหลังใหม่ แต่ยังเป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน โดยมีจุดประสงค์ในการแสดงความขอบคุณและขอพรต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข เพื่อการเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดี อีกทั้งยังเป็นโอกาสดีในการรวมญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง ให้มาพบปะแสดงความยินดี สร้างความสัมพันธ์อันดีในที่อยู่อาศัยใหม่

สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับพิธีขึ้นบ้านใหม่

สามารถเตรียมของขึ้นบ้านใหม่แบบง่าย ๆ ได้ด้วยการทำเช็กลิสต์วางแผนล่วงหน้า โดยมีขั้นตอนเตรียมตัวดังนี้

วางแพลนหาฤกษ์

การหาฤกษ์ดี ถือเป็นสิ่งสำคัญที่คนไทยให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเชื่อว่าฤกษ์ที่ดีจะนำพาความสุข สิริมงคล และโชคลาภมาสู่บ้านใหม่ จึงควรปรึกษาพระอาจารย์ ซินแส หรือหากไม่มี ก็สามารถหาข้อมูลเองแล้วนำมาเทียบกับปฏิทินไทยเพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการขึ้นบ้านใหม่ ซึ่งแต่ละคนอาจมีฤกษ์มงคลที่ไม่เหมือนกัน จึงควรเลือกวันและเวลาที่เหมาะสมกับเจ้าของบ้าน หรือผู้อยู่อาศัยเป็นหลัก โดยอาจต้องเริ่มเตรียมการล่วงหน้าอย่างน้อย 1-2 เดือน เพื่อให้มีเวลาเตรียมทุกอย่างให้พร้อม และแจ้งให้แขกผู้ร่วมงานได้ทราบวันเวลา

เชิญพระสงฆ์และแขกคนสำคัญมาร่วมทำบุญ

เมื่อได้ฤกษ์แล้ว ขั้นตอนสำคัญลำดับถัดมา คือการดำเนินการเชิญพระสงฆ์ ผู้ดำเนินพิธี และแขกคนสำคัญ เช่น ญาติและเพื่อนฝูง มาร่วมเป็นสักขีพยานในการประกอบพิธีมงคลนี้ โดยควรดำเนินการนิมนต์พระสงฆ์ล่วงหน้าประมาณ 1-2 สัปดาห์ เพื่อให้จัดสรรเวลาได้อย่างเหมาะสม จำนวนพระสงฆ์ที่นิมนต์มักนิยมเป็นเลขคี่ โดยเฉพาะเลข 9 ซึ่งหมายถึงความเจริญก้าวหน้า ส่วนเวลาที่เหมาะสมสำหรับการนิมนต์พระสงฆ์มักจะเป็นช่วงถวายภัตตาหารเช้าประมาณ 07.30 น. หรือช่วงเวลาเพลประมาณ 10.30 น. โดยพิจารณาจากฤกษ์ที่ได้และความสะดวกของเจ้าของบ้าน

จัดเตรียมของขึ้นบ้านใหม่ให้พร้อม เพื่อให้พระสงฆ์ทำพิธีได้โดยสะดวก

จัดเตรียมของใช้สำหรับพิธีขึ้นบ้านใหม่ให้พร้อม

ในการจัดพิธี จำเป็นต้องจัดเตรียมของขึ้นบ้านใหม่ที่สำคัญหลายอย่างให้พร้อม ได้แก่

  • โต๊ะหมู่บูชา พระพุทธรูป เครื่องบูชา ประกอบด้วย ดอกไม้ ธูป เทียน ซึ่งเป็นเครื่องสักการบูชาที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนา และแสดงความเคารพต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ รวมไปถึงอาสน์สงฆ์ เพื่อรับรองพระสงฆ์ที่นิมนต์มาทำพิธี พาน ขันน้ำมนต์ ดินสอพอง เพื่อใช้ในการทำพิธี
  • ข้าวสาร อาหารแห้ง เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และการมีกินมีใช้ตลอดไป
  • ผลไม้มงคล เช่น ส้ม มะม่วง กล้วย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และความเจริญงอกงาม
  • ขนมหวาน ได้แก่ ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง ซึ่งเป็นขนมมงคลที่นิยมใช้ในงานมงคล
  • สำรับอาหาร จัดเตรียมไว้สำหรับถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ที่นิมนต์มา และเพื่อเลี้ยงแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมในพิธี

ดูแลสถานที่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

เพื่อความพร้อมในการประกอบพิธีขึ้นบ้านใหม่ จึงควรจัดเตรียมสถานที่ให้ดี โดยการจัดเก็บสิ่งของส่วนตัวให้เป็นระเบียบ ทำความสะอาดบริเวณที่จัดพิธีเพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ รวมถึงจัดเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการทำพิธีให้ครบถ้วน เพื่อให้การจัดพิธีเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เกิดความวุ่นวาย

ขั้นตอนพิธีขึ้นบ้านใหม่

ขั้นตอนการขึ้นบ้านใหม่อาจแตกต่างกันไปตามความเชื่อและความสะดวกของแต่ละบ้าน แต่มักมีขั้นตอนหลัก ๆ ที่ปฏิบัติกันโดยทั่วไป ดังนี้

  1. เริ่มต้นพิธีด้วยเจ้าของบ้านจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย
  2. กล่าวคำอาราธนาศีล 5 เพื่อความเป็นสิริมงคล
  3. พระสงฆ์ให้ศีลแก่เจ้าภาพและผู้ร่วมงาน
  4. พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือน
  5. ถวายภัตตาหารเช้าหรือเพลแด่พระสงฆ์
  6. ถวายสังฆทานเป็นการตอบแทนพระคุณของพระสงฆ์
  7. พระสงฆ์กล่าวอนุโมทนาในบุญที่เจ้าภาพได้กระทำ
  8. เจ้าภาพและผู้ร่วมงานกรวดน้ำเพื่ออุทิศส่วนกุศล
  9. พระสงฆ์เจิมและประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่ประตู หน้าต่าง เพื่อความเป็นสิริมงคล
  10. กล่าวคำลาพระและขอบคุณพระสงฆ์

การขึ้นบ้านใหม่ เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นและมีความสำคัญในชีวิตของทุกคนในครอบครัว การเตรียมตัวอย่างดีและจัดพิธีขึ้นบ้านใหม่จะช่วยให้สมาชิกในครอบครัวสามารถใช้ชีวิตในบ้านใหม่ได้อย่างสบายใจ โดยเชื่อว่าจะนำพาความเจริญรุ่งเรืองมาให้ สำหรับผู้ที่กำลังมองหาบ้านเดี่ยวเพื่อสร้างรากฐานชีวิตครอบครัวบนทำเลศักยภาพที่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช็อปปิง สนามบิน และทางด่วน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ขอแนะนำโครงการบ้านเดี่ยว โซนบางนาวงแหวน จากอารียา พรอพเพอร์ตี้

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1797 หรือ LINE: @areeyahome

 

 แหล่งอ้างอิง 

  1. ขึ้นบ้านใหม่มีขั้นตอนอย่างไร ต้องเตรียมอะไรบ้าง ใครกำลังจะย้ายบ้าน อ่านเลย!. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 จาก https://tb.co.th/article/home-knowledge/House-warming-ceremony 
awsa

5 Steps ในการเตรียมตัวก่อนนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในบ้าน

แม่ลูกนั่งอยู่บนโซฟาและมีสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน

เทรนด์ Pet Parent ที่คนมักเลี้ยงสัตว์เหมือนลูก และดูแลดีเหมือนกับเป็นคนในครอบครัว แต่ก่อนที่จะตัดสินใจเลี้ยงสัตว์ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว กระต่าย นก หรือเต่า จำเป็นต้องศึกษาและเตรียมบ้านให้พร้อม ไม่ใช่แค่สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยง แต่ยังเป็นการดูแลสุขอนามัยของคนในบ้านอีกด้วย

1. เตรียมตัวเตรียมใจ เราพร้อมไหมสำหรับการดูแลไปตลอดชีวิต

การเลี้ยงสัตว์ ไม่ใช่การซื้อเสื้อผ้าหรือว่าซื้อของใช้ ที่ไม่ถูกใจก็สามารถทิ้งหรือว่าเก็บเอาไว้ในห้องเก็บของหรือชั้นวางได้ แต่จะต้องดูแลและรับผิดชอบชีวิตเล็ก ๆ ไปตลอดอายุขัยของเขา ไม่ว่าจะเป็นการดูแลเรื่องอาหารการกิน สุขอนามัย ความสะอาด ไปจนถึงเรื่องสุขภาพ ล้วนนำมาซึ่งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าฉีดวัคซีน ตรวจสุขภาพ ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสื้อผ้า ของเล่น และอื่น ๆ อีกมากมาย 

นอกจากนี้ เจ้าของจะต้องพิจารณาเรื่องอายุขัยของสัตว์แต่ละชนิด อย่างสุนัขและแมวจะมีอายุขัย 10-20 ปี หากว่าเป็นเต่าบางพันธุ์ อาจจะมีอายุยืนยาวเป็นร้อยปี กลายเป็นมรดกให้ลูกหลานต้องดูแลต่อไป ซึ่งนอกจากถามว่าตัวเราเองพร้อมไหม อาจจะต้องถามคนที่ต้องดูแลต่อจากเราด้วยว่าพร้อมเหมือนกันหรือเปล่า 

อีกเรื่องสำคัญที่ต้องเตรียมเอาไว้คือ “เวลา” เพราะสัตว์เลี้ยงอาจจะเป็นสิ่งหนึ่งในชีวิตของเรา แต่สำหรับสัตว์ตัวน้อย ๆ เราคือโลกทั้งใบของเขา ไม่ว่าจะงานยุ่งขนาดไหน ก็ต้องมีเวลาเล่นและดูแลเรื่องต่าง ๆ อย่างครบถ้วน ซึ่งจะดีทั้งต่อร่างกายและจิตใจของสัตว์เลี้ยงนั่นเอง 

2. เตรียมสถานที่ให้พร้อม ปลอดภัย และเหมาะแก่การอยู่อาศัย

ก่อนที่จะนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาเลี้ยงในบ้าน ควรทำความเข้าใจธรรมชาติและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภท พร้อมจัดเตรียมพื้นที่ที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงแต่ละประเภทด้วย

ตัวอย่างเช่น หากว่าเลี้ยงแมว อาจจะต้องมีพื้นที่ให้ปีนป่าย หรือหลบซ่อนตัว หากเลี้ยงสุนัขควรมีพื้นที่กว้างขวางให้เพียงพอสำหรับการวิ่งเล่น ได้ปลดปล่อยพลังงานที่เหลือเฟือ ซึ่งหากจัดสภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสม ก็จะลดความเสียหายของข้าวของภายในบ้าน รวมถึงลดความเครียดของสัตว์เลี้ยงลงได้อีกด้วย 

นอกจากนี้ ควรซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมี และทนทานต่อการขีดข่วน สำหรับบ้านที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวอาจจะตัดสินใจติดตั้งพื้นที่ที่สามารถช่วยลดแรงกระแทก หรือ Shock Absorption Floor เพื่อช่วยดูแลข้อเข่าให้ใช้งานได้อย่างยาวนาน เป็นพื้นที่ดีทั้งต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยงและผู้สูงอายุ

หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงกับสุนัขซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงในบ้าน

3. จัดระเบียบพื้นที่สำหรับเก็บอุปกรณ์และอาหารต่าง ๆ

การดูแลสัตว์เลี้ยง ก็เปรียบเสมือนกับการเลี้ยงเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ต้องมีอาหาร และอุปกรณ์ของใช้ในชีวิตประจำวันมากมาย ไปจนถึงการต้องวางที่นอน ห้องน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ 

ด้วยเหตุนี้ เราจึงควรเตรียมพื้นที่สำหรับเก็บอาหาร ขวดน้ำ ของเล่น และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย แยกออกมาเป็นสัดเป็นส่วน เพื่อช่วยให้บ้านดูสะอาดตา และยังสามารถหยิบใช้ได้สะดวกและรวดเร็วอีกด้วย 

ดูแลเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน

สัตว์เลี้ยงภายในบ้านมักจะมีความซุกซนซ่อนอยู่ และบางครั้งก็ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอันตราย เมื่อผสมกับความอยากรู้อยากเห็นจึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอันตรายได้

การจัดบ้านให้เป็นระเบียบ และเก็บของมีคม สายไฟ และของตกแต่งที่อาจจะเป็นอันตรายออกจากพื้นที่ของสัตว์เลี้ยง รวมถึงการจัดห้องเล็ก ๆ เอาไว้เป็นพื้นที่ปลอดภัยโดยเฉพาะ ก็จะช่วยลดอันตราย และลดผลกระทบต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้ 

4. อย่าลืมดูแลเรื่องความสะอาดและสุขอนามัย

สัตว์เลี้ยงมักจะมีเศษขน เศษดิน เศษทราย และสิ่งต่าง ๆ ติดมา ทำให้บ้านกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และก่อให้เกิดโรคภัยต่าง ๆ ทั้งต่อคนและสัตว์เลี้ยง 

การดูแลเรื่องความสะอาดทุกจุดภายในบ้านจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ หากว่าไม่มีเวลามากพอ แนะนำให้มองหาเครื่องทำความสะอาดแบบอัตโนมัติอย่างโรบอตดูดฝุ่น หรือใช้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการกรองฝุ่น ขนสัตว์ และเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้บ้านมีอากาศที่บริสุทธิ์และปลอดภัย 

ที่สำคัญ ควรทำความสะอาดอุปกรณ์และของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นชามน้ำ ชามอาหาร หรือว่าของเล่น เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียต่าง ๆ 

5. เลือกบ้านกว้าง ๆ สำหรับเลี้ยงสัตว์ เลือกบ้านโซนบางนาจากอารียา พรอพเพอร์ตี้

เพราะบ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่เป็นเซฟโซนที่สร้างความสุขและความอบอุ่นให้แก่ทุกคนในครอบครัว รวมไปถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก การเลือกซื้อบ้านจึงต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของสมาชิกทุกคน 

อารียา พรอพเพอร์ตี้ มีโครงการบ้านโซนบางนาหลากหลายโครงการ ราคาเริ่มต้นเพียง 3.19 ล้านบาท ที่พร้อมตอบโจทย์ความต้องการของทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะ Pet Parent ที่กำลังมองหาบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางทั้งภายในบ้านและภายนอกบ้านสำหรับสัตว์เลี้ยง และยังอยู่ในย่านที่เดินทางสะดวก ใกล้แหล่งช็อปปิง สนามบิน และทางด่วน เลือกแบบบ้านที่ใช่ แล้วนัดหมายเพื่อเยี่ยมชมโครงการได้เลย 

 

สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 1797 หรือ LINE: @areeyahome

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

 แหล่งอ้างอิง 

  1. 8 Ways to Prepare Your Home for a New Dog’s Arrival. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จาก https://hastingsvet.com/8-ways-to-prepare-your-home-for-a-new-dogs-arrival/
  2. How to prepare your home for a new pet. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2567 จาก https://www.petplan.co.uk/pet-information/blog/how-to-prepare-your-home-for-a-new-pet/
awsa

เคล็ดลับปรับแก้ฮวงจุ้ยบ้าน แบบไม่ต้องรื้อโครงสร้าง

แก้ฮวงจุ้ยบ้าน แบบไม่ต้องรื้อโครงสร้าง

ฮวงจุ้ยบ้าน เป็นความเชื่อเกี่ยวกับการจัดวางสิ่งของและการไหลของพลังงานในบ้าน เพื่อเสริมสร้างความสมดุลระหว่างคนกับธรรมชาติ แต่บางครั้งคนที่ซื้อบ้านใหม่แล้วอยากจัดฮวงจุ้ยบ้าน ก็จะมีข้อจำกัดในเรื่องของโครงสร้าง และการปรับเปลี่ยนตำแหน่งห้องที่ถูกวางไว้อยู่แล้ว ซึ่งถือว่าเป็นงานใหญ่ เป็นสิ่งที่แก้ได้ยาก วันนี้อารียาฯ เลยจะมาแนะนำวิธีสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ฮวงจุ้ยบ้านโดยไม่ต้องทำการรื้อโครงสร้างใหญ่ๆ ก็สามารถแก้ฮวงจุ้ย เสริมความเป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่อาศัยได้เช่นกัน

หลักการแก้ฮวงจุ้ยบ้าน แบบไม่ต้องรื้อโครงสร้าง

จัดเฟอร์นิเจอร์ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

1. การจัดห้องและการเคลื่อนย้ายเฟอร์นิเจอร์ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุดในการแก้ฮวงจุ้ยบ้าน คือการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ใหม่ ห้องที่อยากให้พลังงานบวกไหลเวียน แนะนำให้จัดวางเฟอร์นิเจอร์เข้ามุม ไม่ขวางทางเดินของคนหรือพลังงาน ยิ่งโดยเฉพาะห้องนั่งเล่นและห้องนอน ควรวางเฟอร์นิเจอร์ให้หันหน้าเข้าหาประตู เพื่อช่วยสร้างความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย

ติดกระจก แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

2. การติดกระจกเพื่อปรับการไหลเวียนของพลังงาน แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

กระจกเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังตามหลักฮวงจุ้ยบ้าน เป็นตัวช่วยสะท้อนและกระจายพลังงานได้ หากมุมต่างๆ ในบ้านมีจุดที่พลังงานไหลเข้าไปไม่ถึง หรือเป็นมุมที่อยู่แล้วรู้สึกอึดอัด ให้ติดตั้งกระจกเงาในตำแหน่งที่สามารถดึงดูดและสะท้อนพลังงานดีๆ เข้ามาสู่ภายในบ้านได้ แต่ต้องระวังอย่าวางกระจกตรงกับประตู เพราะเหมือนเป็นการสะท้อนให้พลังงานไหลออกไปนั่นเอง

ปลูกต้นไม้ เสริมพลังงานธรรมชาติ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

3. การเสริมพลังงานด้วยธรรมชาติ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

การนำธรรมชาติเข้ามาเสริมในบ้าน อย่างการปลูกต้นไม้ หรือมีแหล่งน้ำขนาดเล็ก จะยิ่งช่วยเสริมสร้างพลังบวกและสร้างความสมดุลให้กับบ้าน ตามหลักฮวงจุ้ยบ้านแล้วการเลือกต้นไม้ในบ้านควรเป็นต้นไม้มงคล อย่างต้นไผ่กวนอิม ต้นโป๊ยเซียน ต้นวาสนา และควรหลีกเลี่ยงต้นไม้ที่มีหนาม เพราะเป็นตัวนำพาพลังงานลบ เหมือนมีอุปสรรคคอยทิ่มแทง

เลือกใช้สีบ้าน แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

4. การเลือกสีเพื่อแก้ฮวงจุ้ยบ้าน เสริมความเป็นสิริมงคล

สี ก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากตามหลักฮวงจุ้ยบ้าน เพราะแต่ละสีเป็นตัวแทนของพลังงานธาตุต่างๆ การเลือกใช้สีภายในบ้านจะช่วยปรับพลังงานให้เหมาะสม เช่น การใช้สีเขียวเพื่อเสริมธาตุไม้ ใช้สีน้ำเงิน สีฟ้า เพื่อเสริมธาตุน้ำ ใช้สีแดงเพื่อเสริมธาตุไฟ ใช้สีเหลืองเพื่อเสริมธาตุดิน และใช้สีขาว สีเทา เพื่อเสริมธาตุโลหะ แต่การเลือกใช้สีก็ควรสัมพันธ์กับฟังก์ชันการใช้งาน และตำแหน่งทิศทางของแต่ละพื้นที่ในบ้านด้วย

เปิดรับแสงธรรมชาติ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

5. การใช้แสงเพื่อแก้ฮวงจุ้ยบ้าน เสริมพลังงาน

แสงสว่างเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการเสริมพลังงานบ้าน หากภายในบ้านมีมุมที่มืดเกินไป ก็ควรเพิ่มพื้นที่ให้แสงส่องถึงด้วยการเปิดม่านรับแสงธรรมชาติ หรือติดหลอดไฟโทนสีอุ่นเพิ่มให้บ้านสว่าง การเปิดรับแสงให้เพียงพอจะยิ่งช่วยกระจายพลังงานที่ดีไปทั่วบ้าน

ดูแลความสะอาด จัดบ้านให้เป็นระเบียบ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

6. การดูแลความสะอาดและความเป็นระเบียบ แก้ฮวงจุ้ยบ้าน

บ้านที่รกหรือมีสิ่งของเกะกะอาจทำให้พลังงานไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นการดูแลบ้านให้สะอาดเรียบร้อย จัดวางสิ่งของให้เป็นระเบียบจึงเป็นสิ่งสำคัญ ลองหาชั้นหรือตู้ทึบมาเก็บของกระจุกกระจิกไม่ให้รกตา อีกทั้งการทำความสะอาดบ้านให้สะอาด โปร่งโล่งอยู่เสมอ จะยิ่งช่วยให้พลังงานภายในบ้านไหลลื่น และยังช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในบ้านอีกด้วย

จะเห็นได้ว่าการแก้ฮวงจุ้ยบ้านไม่จำเป็นต้องทำการรื้อโครงสร้างเสมอไป เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ เปลี่ยนการใช้สีและแสงที่เหมาะสม และเพิ่มต้นไม้พืชพันธุ์หรือสิ่งประดับที่ช่วยส่งเสริมพลังบวก ก็สามารถเสริมสร้างความสมดุลและสร้างความสงบสุขให้ผู้อยู่อาศัยในบ้านได้แล้ว หากสนใจโครงการบ้านคุณภาพ มีมาตรฐาน ที่มาพร้อมฟังก์ชันและดีไซน์รองรับการปรับเปลี่ยนตามหลักฮวงจุ้ย บนหลากหลายทำเลศักยภาพ คลิกดูรายละเอียดโครงการต่าง ๆ จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ ได้ที่ www.areeya.co.th

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก :

https://www.romsaifurniture.com/how-to-use-feng-shui-cures-for-better-life/

https://romsaifurniture.com/how-to-use-feng-shui-in-your-house/

awsa

เลือกบ้านทั้งที ผนัง Precast หรือก่ออิฐฉาบปูน ดีกว่ากัน ?

เลือกบ้าน ผนัง Precast หรือ ก่ออิฐฉาบปูน ดีกว่ากัน ?

จะเลือกบ้าน ซื้อบ้านทั้งที ต้องดูปัจจัยหลาย ๆ อย่างควบคู่ โดยเจ้าของบ้านควรรู้วัสดุที่นำมาทำบ้านเพื่อความพึงพอใจใช้งานได้นาน บ้านไม่พังเร็ว โดยเฉพาะเรื่องการก่อผนังเพราะถือเป็นเรื่องสำคัญสำหรับบ้าน ถ้าอยากรู้ว่าเลือกบ้านผนัง Precast หรือก่ออิฐฉาบปูนดีกว่ากัน ? อารียาฯ มีคำตอบมาให้แล้ว

เทียบข้อแตกต่างระหว่างผนัง Precast กับผนังแบบก่ออิฐฉาบปูน

ข้อดี ข้อเสียของการเลือกใช้ผนัง Precast

ข้อดี ข้อจำกัดของการเลือกใช้ผนัง Precast มีอะไรบ้าง ?

ข้อดีของ ผนัง Precast

  • ค่าการนำความร้อนต่ำ

  • ค่าต้านทานความร้อนที่สูง

  • ค่าฉนวนความร้อนดีกว่าผนังก่อธรรมดา ค่าการดูดซับน้ำต่ำ

  • มีน้ำหนักเบา แข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักและแรงกดได้ดี

  • สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานได้กว่า 30%

ข้อจำกัดของ ผนัง Precast

  • การต่อเติม หรือเจาะรูค่อนข้างทำได้ยาก

ข้อดี ข้อเสียของการเลือกใช้ผนังแบบก่ออิฐฉาบปูน

ข้อดี ข้อเสียของการเลือกใช้ผนังแบบก่ออิฐฉาบปูน

ข้อดีของผนังแบบก่ออิฐฉาบปูน

  • ความแข็งแรง ทนทาน

  • ทนความร้อน สร้างความเย็น

  • การต่อเติมที่ง่าย

  • ขนาดมีมาตรฐาน

  • เก็บเสียงได้ดี ทนต่อไฟ

ข้อจำกัดของผนังแบบก่ออิฐฉาบปูน

  • บ้านปูน ผนังอาจแตกร้าวง่าย

  • การใช้วัสดุพวกอิฐมวลเบา อาจต้องใช้ช่างผู้ชำนาญในการก่อสร้าง และฝีมือละเอียด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมา

  • อิฐมวลเบาคุณภาพดี อาจมีราคาแพงกว่า อิฐทั่วไป

  • ดูดซึมน้ำปานกลาง บางส่วนอาจมีกลิ่นอับชื้นได้

ผนังคอนกรีตแบบผนัง Precast VS ผนังก่ออิฐฉาบปูน เลือกแบบไหนดี ?

แผ่นคอนกรีตแบบผนัง Precast มีความรวดเร็วในการก่อสร้าง รวมถึงสามารถควบคุมขนาดให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนผนังก่ออิฐฉาบปูนจะชอบมีปัญหาเกี่ยวกับขนาดช่องที่ไม่ได้มาตรฐาน ด้วยเหตุนี้เองผนัง Precast จึงเป็นที่นิยมอย่างมากในการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร เพราะเป็นประเภทผนังที่ออกแบบเพื่อใช้แทนผนังแบบก่อ จึงสามารถรื้อถอน ทุบ หรือสกัดได้ โดยไม่ส่งผลเสียต่อตัวโครงสร้าง แต่สำหรับคนที่สร้างบ้านเองหลังเดียว ก็แนะนำให้พิจารณาเลือกใช้ผนังก่ออิฐฉาบปูนได้ เนื่องจากผนัง Precast มีต้นทุนสูงจึงอาจไม่คุ้มค่ากับการนำมาใช้เพียงหลังเดียว ดังนั้นหากถามว่าจะเลือกผนังแบบไหนดี ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการที่ตอบโจทย์ผู้อยู่อาศัยได้ดีที่สุดทั้งในเรื่องค่าใช้จ่าย โครงสร้าง รวมถึงความสวยงาม

โครงการบ้านอารียาฯ ผนัง Precast

สำหรับใครที่กำลังมีแพลนสร้างบ้านใหม่ หรือต่อเติมบ้าน แล้วอยากให้การก่อสร้างเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ผนังแบบ Precast จึงเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ หรือใครที่กำลังตัดสินใจซื้อโครงการบ้านที่ใช้ผนัง Precast อารียาฯ มีโครงการที่ใช้ผนัง Precast หลากหลายโครงการ ไม่ว่าจะเป็น โครงการ The Village บางนา-วงแหวนฯ, โครงการ Como Botanica II บางนา, โครงการ Aren X บางนา, โครงการ Como Primo บางนา และโครงการ Como Bianca II บางนา คลิกดูรายละเอียดแบบบ้านเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th บ้านทำเลหัวใจบางนา ใช้วัสดุในการสร้างบ้านที่ได้มาตรฐาน มั่นใจได้ในความทนทาน และตอบโจทย์ความยั่งยืนของผู้อาศัย

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:
https://www.jorakay.co.th/blog/owner/wall/what-are-the-advantages-of-using-precast-prefabricated-walls
https://www.kacha.co.th/articles/%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%AA%E0%B8%94%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%B3-%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89/#:~:text=%E0%B8%9D%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%20%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B4%E0%B8%90,%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%82%E0%B9%87%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%20%E0%B8%97%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%99

awsa