Recycled Furniture is the Future II

Zero Stool

Kacama Design Lab ดีไซน์สตูดิโอของจากฮ่องกง ผุดไอเดียจากการแวะเวียนไปที่ร้านเศษเหล็ก และพบว่าวัสดุประเภทหนึ่งที่ถูกโยนทิ้งในปริมาณมหาศาลก็คือ “ปลอกพลาสติกหุ้มสายไฟ” จุดนี้เองที่ทำให้พวกเขาคิดว่าน่าจะลองทำอะไรสักอย่างกับวัสดุเหล่านี้ดู โดยการเริ่มศึกษาแนวคิดการดีไซน์แบบ ‘Zero Waste’ และลงมือสร้างสรรค์เก้าอี้ทรงสูง ‘Zero Stool’ ซึ่งประกอบขึ้นจากชิ้นส่วนวัสดุเหลือใช้ 3 ส่วนหลักๆ คือ ฝาครอบพัดลมเก่านำมาใช้เป็นโครงเหล็กรองรับที่นั่ง เศษสายไฟเหลือทิ้งนำมาร้อยสานเข้าด้วยกันบนฝาครอบเพื่อทำเป็นเบาะนั่ง และเพิ่มความแข็งแรงด้วยเศษไม้จากลังขนส่งสินค้ามาทำเป็นขาเก้าอี้ ทั้งหมดถูกนำแปรรูปให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ ซึ่งในการถักทอเบาะแต่ละตัวทำให้เกิดรูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะไม่ซ้ำกัน สร้างคาแรคเตอร์อันโดดเด่นได้เป็นอย่างดี

นอกจากจะได้ผลงานออกแบบร่วมสมัยแล้ว คอลเล็กชั่นนี้ยังได้นำเสนอคุณค่าและความหมายใหม่ๆ ของ ‘งานช่างฝีมือ’ ให้กลับมาสู่วิถีการบริโภคและรสนิยมของผู้คน Zero Stool คือความงดงามของงานคราฟท์ด้วยแพทเทิร์นสีสันแปลกตาและองค์ประกอบที่หลากหลายน่าสนใจ

Nero furniture

Xavier Loránd ดีไซเนอร์ชาวเม็กซิกันซึ่งเป็นคอกาแฟตัวยงนำเสนอโปรเจ็กเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากกากกาแฟ เป็นงานออกแบบเชิงทดลองที่ผสานผสานวัสดุหลากหลายเข้าไว้ด้วยกันเพื่อให้เกิดมุมมองและพื้นผิวที่มีเอกลักษ์ ทั้งสีสันความหยาบความละเอียดหรือแม้กระทั่งกลิ่นอายของกาแฟ! ในรูปลักษณ์ที่ดูเฉียบเนี้ยบเรียบเท่แต่เปี่ยมด้วยลูกเล่น

ในส่วนของ Stool นั้นท็อปด้วยเมล็ดกาแฟและมีคอนกรีตโทนสีขรึมเป็นองค์ประกอบหลัก Side Table ก็เช่นกันแต่เลือกท็อปเพียงส่วนเดียว นอกจากนี้ยังใช้ไม้ MDF (Medium-Density Fiberboard) หรือแผ่นใยไม้อัด ด้วยกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้เนื้อไม้มีความแน่นละเอียดสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่น สามารถขูดแต่งเนื้อไม้ให้เรียบและนำมาพ่นสีได้สวยงามเพื่อให้เกิดความปราณีต

ความสนุกท้าทายของโปรเจ็กนี้ก็คือการนำเอาคุณสมบัติพิเศษและเสน่ห์ของวัสดุต่างๆ มาประยุกต์เป็นส่วนหนึ่งของชิ้นงาน ความกล้าที่จะเลือกใช้วัสดุเหล่านี้มาประกอบและส่งเสริมกันและกันอย่างแยบยล โดยเฉพาะวัสดุ Eco-Friendly มาทดลองใช้กับกากกาแฟเพื่อสร้างแท็กแจอร์ใหม่ๆ อย่าง Bio Plastic Resin ซึ่งจัดเป็นพลาสติกแบบยั่งยืนชนิดหนึ่ง (Sustainable Plastic Resin) มีทั้งแบบที่ผลิตจากวัตถุดิบซึ่งเป็นมวลชีวภาพหรือสามารถสร้างขึ้นมาใหม่ได้ (Renewable Resource) และแบบสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable Plastics) ที่ผลิตจากวัตถุดิบหลากหลายรวมทั้งพืชพรรณต่างๆ

Balenciaga Sofa

ทำอะไรออกมาก็ปัง! สำหรับแบรนด์แฟชั่นสุดหรูขวัญใจสาย Hight Street เมื่อ Harry Nuriev ศิลปินและดีไซเนอร์ชื่อดังจากนิวยอร์ก ผู้ก่อตั้ง Crosby Studios จับมือกับ Balenciaga เพื่อสร้างงานดีไซน์ที่ท้าทายกรอบความคิด โดยความพิเศษของโซฟาตัวนี้เกิดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ ‘ความยั่งยืน’ วัสดุที่ใช้ห่อหุ้มโครงโซฟานั้นเป็นแผ่นไวนิลโปร่งใส ซึ่งมาจากผลงานการแสดงศิลปะครั้งที่ผ่านมาของ Harry Nuriev ส่วนด้านในอัดแน่นด้วยเสื้อผ้าแฟชั่นที่เสียหายหรือค้างสต็อกล้าสมัยจนขายไม่ออกในหลายๆ ซีซั่น กลายมาเป็นโซฟารูปทรงตัวแอล รูปแบบของโซฟาโปร่งใสนี้เน้นความสบายเป็นหลัก มีทั้งที่วางเท้าซึ่งปรับขยายได้และหมอนอิงซึ่งภายในมีเสื้อผ้า Balenciaga หลากสีเข้าชุดกัน ทั้งหมดนี้ทาง Balenciaga บอกเล่าว่าต้องการ Reimage โซฟาที่คนทั่วไปคุ้นเคย ซึ่งถือเป็นศูนย์รวมของบ้านส่วนใหญ่

นอกจากนี้ Harry Nuriev ยังได้แรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากโซฟาเป่าลมยุค 90s โดยนำเอาอารมณ์แห่งยุคสมัยนั้นมาใช้ในการสร้างสรรค์สู่ผลงานที่มีความทันสมัยมากขึ้น และด้วยสีสันเสื้อผ้าของ Balenciaga โซฟาตัวนี้จึงดูราวกับลวดลายคาไลโดสโคปที่จัดจ้าน

การหยิบโซฟามาคิดใหม่ทำใหม่เพื่อส่งเสริมการออกแบบที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ทำให้มีการนำเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งกลับมาสร้างเป็นชิ้นงานออกแบบอีกครั้ง ซึ่ง Balenciaga มองว่าเป็นหนึ่งในความรับผิดชอบของแบรนด์เรื่องการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

awsa

เช็คอิน 3 สถานที่เคาท์ดาวน์ย่านบางนา

1. Mega Countdown
           ระเบิดความสุขกันให้เต็มอิ่มในเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ตอกย้ำแลนด์มาร์คที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในกรุงเทพตะวันออกกับมหกรรมเคาท์ดาวน์ “The Forestias by MQDC Presents Mega Countdown 2020” เฉลิมฉลองด้วยคอนเสิร์ตใหญ่เต็มรูปแบบพร้อมแสงสีบนเวทีและพลุไฟสุดตระการตา โดยปีนี้อัดแน่นด้วยความมันส์และศิลปินระดับแนวหน้าของเมืองไทยที่มาเพิ่มดีกรีความสนุกสุดเหวี่ยงทั้ง Getsunova,Potato,Slot Machine,PolyCat,URBoyTJ,นนท์ ธนนท์ และกอล์ฟ ฟักกลิ้งฮีโร่ ที่สำคัญอย่าลืมธีมของงานกับ Dress Code สไตล์โบฮีเมียนที่เหล่าแฟชั่นนิสต้าสายฝอห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง ในวันที่ 31 ธันวาคมนี้ ณ ลานจอดรถด้านนอกฝั่งอิเกีย ตั้งแต่เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป
2. Seacon Countdown Concert
      อีกหนึ่งงานที่รับประกันว่า “มันส์แน่!” ต้อนรับปีใหม่กันตลอด 3 คืนเต็มกับมหกรรมฟรีคอนเสิร์ตจากศิลปินดังๆ ที่จะทำให้คุณต้องกรี๊ดกันแบบสุดเสียงเต้นกันให้สุดแรง หลุดโลกไปในตารางของความสุขแบบไร้ขีดจำกัด ตั้งแต่เวลา 20.30 – 00.00 น. วันอาทิตย์ที่ 29 ธ.ค.62 เปิดเวทีด้วย “Cocktail” นักร้องเสียงเอกลักษณ์แห่งยุค และ “ปาล์มมี่” ศิลปินสาวฮิปปี้สุดเซอร์,วันจันทร์ที่ 30 ธ.ค. 62 พบกับ “Paradox” วงอัลเทอร์เนทีฟหัวใจวัยรุ่น และ “Clash” วงร็อกระดับตำนาน สนุกส่งท้ายคืนข้ามปีในวันอังคารที่ 31 ธ.ค. 62 ทั้งวง “ETC” ที่ขนเพลงฮิตมาให้ฟินไปพร้อมๆ กัน แล้วมาเคาท์ดาวน์รับศักราชใหม่กับวง “Mild” วงดนตรีป็อปที่ผสมผสานกับฮิปฮอปอย่างลงตัว งานนี้ยินดีต้อนรับทุก “ธีม” ของการแต่งตัวที่โดดเด่นสะดุดและมีรางวัลพิเศษมอบให้สำหรับคนที่ “กล้าจะท้าทาย”
3. JAS URBAN Srinakarin
กลับมาอีกครั้งกับความสุขส่งท้ายปีสำหรับงาน BEER GARDEN 2019 ที่เอาใจคอเบียร์สายชิลให้มานั่งรับลมหนาวกันไปยาวๆ ตลอดทั้งสัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ 20 – 31 ธ.ค.นี้ เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป ใน Community Mall สุดฮอตดีไซน์โดดเด่นและทันสมัยของย่านศรีนครินทร์ แหล่งช้อปปิ้งและความบันเทิงครบทุกรสชาติที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ ซึ่งคุณจะได้ดื่มด่ำกับเบียร์สดจากแบรนด์ชั้นนำที่มีให้เลือกแบบจุใจพร้อมอิ่มอร่อยด้วยอาหารรสเด็ดหลากเมนู เพลิดเพลินไปกับดนตรีสดในยามค่ำคืนอันรื่นรมย์ และพลาดไม่ได้วันที่ 31 ธ.ค. ที่จัดเต็มด้วยไฮท์ไลต์เด็ดๆ ของบรรยากาศแห่งการเคาท์ดาวน์
awsa

ปลูกต้นไม้ไว้ในบ้าน อีกหนึ่งตัวช่วยขจัดฝุ่นได้มากที่สุด

เดหลี (Peace Lily) ไม้ประดับที่โดดเด่นมากชนิดหนึ่ง เนื่องจากให้ดอกสีขาวสวยงาม จึงเป็นที่นิยมนำมาปลูกเป็นไม้ดอกไม้ประดับภายในอาคารบ้านเรือน ช่วยปรับกลิ่นอากาศได้ เป็นต้นไม้ที่คายความชื้นสูง ในขณะที่มีความสามารถสูงในการดูดสารพิษ ดักจับสปอร์เชื้อราในอากาศและฟอกอากาศได้มากถึง 60% นิยมวางตกแต่งไว้ในห้องนั่งเล่น

ว่านหางจระเข้ (Aloe Vera) พรรณไม้ที่ได้รับความนิยมและรู้จักอย่างกว้างขวางเพราะเป็นพืชสมุนไพรที่ให้ประโยชน์กับมนุษย์อย่างมาก ช่วยฟอกอากาศและปล่อยก๊าชออกซิเจนในตอนกลางคืน คลีนมลพิษในห้องนอนได้ดี นอกจากนี้ยังมีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษจำพวกฟอร์มัลดีไฮด์ได้อีกด้วย

เศรษฐีเรือนใน (Spider Plant) ไม้ประดับชนิดแรกที่ได้ชื่อว่าขจัดสาร ethylbenzene ได้ถึง 62% สาร p- Xylenes มากถึง 92% และสาร o-Xylene สูงสุดถึง 93% สารเคมีเหล่านี้พบในหมึกพิมพ์ ยางลบ สี กาวและน้ำมันเคลือบเงา ช่วยให้อากาศภายในบ้านสดชื่นและลดสารเคมีตกค้างในร่างกายได้ดี สามารถรักษาอาการแพ้ฝุ่น กำจัดมลพิษทางอากาศได้มากถึง 90% ในเวลาเพียง 2 วัน
เยอบีร่า (Gerbera Daisy) มาถึงพรรณไม้กรองอากาศที่มีสีสันกันบ้าง จัดเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบแดดจัดแต่ยังสามารถปลูกในบ้านได้ ต้องวางในตำแหน่งที่มีแสงแดดส่องถึงสักหน่อย ต้องการน้ำและความชื้นในระดับปานกลาง ที่สำคัญนอกเหนือจากความสวยงามแล้ว เยอบีร่ายังมีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษได้ดีเยี่ยม

เบญจมาศ (Chrysanthemum) พืชชนิดนี้เติบโตได้ดีในที่แดดจัดหรือกึ่งแดด จึงควรวางไว้ริมหน้าต่างริมระเบียง เป็นพืชที่ต้องการน้ำมาก และมีคุณสมบัติดูดสารพิษในอาคารจำพวกฟอร์มัลดิไฮด์ เบนซีนและแอมโมเนียได้อีกด้วย ถ้าอยากให้บ้านดูสดใสมากขึ้นให้เลือกปลูกดอกแบบสลับสี

โหระพาไทย (Holy Basil) มีคุณสมบัติในการใช้ก๊าซอันตรายจำพวกฟอร์มัลดิไฮด์เพื่อสังเคราะห์แสงและจะปล่อยก๊าซออกซิเจนคืนกลับมา อีกทั้งกลิ่นของโหระพายังช่วยให้จิตใจสงบ มีสมาธิและช่วยลดอาการซึมเศร้าได้ โหระพาเป็นพืชที่ต้องการแสงแดดมากและต้องรดน้ำทุกวัน เหมาะที่จะปลูกบริเวณระเบียง

หนวดปลาหมึก (Schefflera) มีลักษณะใบรี ขอบใบคม สีเขียวสดเป็นมัน เมื่อแตกกิ่งก้านออกมาเป็นทรงพุ่มแน่น เป็นพันธุ์ไม้ที่มีส่วนสูงประมาณ 3 เมตร ไม่ชอบแสงแดดจัดสักเท่าไหร่ จึงสามารถปลูกไว้ภายในบ้านได้ เป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่สามารถคายความชื้นได้เยอะเพื่อที่จะดักจับฝุ่นภายในบ้านได้
Credit: https://news.mthai.com/webmaster-talk/705402.html, https://www.baanlaesuan.com/61949/plant-scoop/freshair-plant Credit Images: www.diggardens.com, www.buffyz.com, www.instagram.com/houseplant, www.veilingrheinmaas.com, www.greeneryunlimited.co

awsa

EASY GRAB AND GO | หทัยราษฎร์-ไทยรามัญ | AREEYA NEIGHBORHOOD

ถนนหทัยราษฎร์-วงแหวน ทำเลที่อยู่อาศัยในโซนตะวันออก ที่กำลังได้รับความสนใจและน่าจับตามองเป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ตั้งอยู่ติดถนนสายหลักหลายสาย การเดินทางเข้าใจกลางเมืองก็สะดวกสบายด้วย ทางด่วน , รถไฟฟ้า , ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ชั้นนำ และสถานที่สำคัญหลายแห่ง อีกทั้งมีการขยายตัวอย่างรวดเร็วในด้านธุรกิจ อาทิ โครงการหมู่บ้านต่างๆ ฯลฯ จึงทำให้เห็นว่าถึงแม้ไม่ได้อยู่ในย่านใจกลางเมืองแต่ก็ทำให้ชีวิตมีความสุขและลงตัวได้ในแบบที่เป็นคุณ

1. The Gong Outbound Cafe’

คาเฟ่ชิคๆ ในย่านหทัยราษฎร์ ที่คุณสามารถนั่งชิลล์ได้ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ กลางวันจะเป็นคาเฟ่ เสิร์ฟเครื่องดื่มร้อน-เย็น พร้อมของหวานอร่อยๆ ให้คุณได้ชื่นใจ พอตกเย็นก็จะเปิดเป็นร้านนั่งชิล ให้คุณได้มาแฮงค์เอ้าท์กับแก๊งเพื่อน ในบรรยากาษสบายๆ เคล้าเสียงเพลง และดนตรีสด

ที่ตั้ง : ซอยหทัยราษฎร์ 46 แขวงสามวาตะวันตก แขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

เวลาเปิด-ปิด : 17.00-23.00 น.

Credit Images: wongnai.com, alivearound.com

2. Cafe Tropicana

ร้านนี้คงถูกใจคนรักกาแฟ และคาเฟ่ฮอปปิ้งที่ชอบถ่ายรูปแน่นอน ด้วยสไตล์การตกแต่งของร้านสไตล์ทรอปิคอล ที่ทำให้เราเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ มีชีวิตชีวาด้วยสีเขียวสบายตา ตัดกับเฟอร์นิเจอร์ไม้เก๋ๆ ทำให้บรรยากาศดูอบอุ่นขึ้นไปอีกขึ้น ส่วนเมนูก็จะมีทั้งอาหาร ของหวาน และกาแฟสูตรพิเศษสไตล์ทรอปืคอลของทางร้าน

ที่ตั้ง : โครงการ The Grove หทัยราษฎร์ ปทุมธานี 12150

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน 08.00-21.00 น.

Credit Images: facebook.com/cafetropicanaofficial, wongnai.com

3. Indy Cafe Bar & Restaurant

ร้านนั่งชิลบนถนนหทัยราษฎร์ อาหารอร่อย เครื่องดื่มครบครัน พร้อมไปกับการนั่งฟังเพลง ที่มีดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน เวลาหลังเลิกงานก็ชวนเพื่อนออกมาแฮงค์เอ้าท์ ปาร์ตี้ ดูบอล ร้านนี้เป็นหนึ่งในร้านที่ไม่ควรพลาด อีกทั้งยังมี activity เช่น โต๊ะพลู ให้สนุกกันด้วย ภายในมีที่นั่งทั้งโซนห้องแอร์และรูฟท๊อปรับลมเย็นยามค่ำคืน

ที่ตั้ง : ถนนหทัยราษฎร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510

เวลาเปิดปิด เปิดทุกวัน : 17.00-23.30 น.

Credit Images: facebook.com/indycafebar/,

4. แฟชั่น ไอส์แลนด์

ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโซนตะวันออก ที่รวบรวมทุกไลฟ์สไตล์ไว้ในที่เดียวกัน ทั้งร้านอาหาร แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ ของตกแต่งบ้าน โรงภาพยนตร์ แหล่งรวมความบันเทิงต่างๆ รวมถึงสวนสนุกสำหรับเด็กๆ ซึ่งตอบโจทย์กลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ให้ทุกคนได้มีช่วงเวลาแห่งความสุขร่วมกันในวันหยุดแสนพิเศษ

ที่ตั้ง : ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230

เวลาเปิด-ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน 11.00-21.00 น.

Credit Images: me-story.com, edtguide.com

awsa

HAPPY MOMENT AT HATAIRAT-RAMINDRA

ปัจจุบันย่านรามอินทรา หทัยราษฎร์ ยาวไปถึงย่านมีนบุรี เป็นย่านที่มีความเจริญที่เข้าถึงอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งศูนย์การค้าขนาดใหญ่ แหล่งแฮงค์เอาท์ สถานที่สำคัญต่างๆ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้การใช้ชีวิตใกล้ใจกลางเมืองนั้นสะดวกสบายมากขึ้นไม่ต้องออกไปไหนไกล เพราะย่านนี้แทบจะมีทุกอย่างครบจบในที่เดียว! เป็นย่านที่พร้อมรองรับวิถีชีวิตของคนทุกวัยอย่างแท้จริง โครงการอารียาทำเลรามอินทรา เป็นโครงการที่ใกล้แฟชั่นไอส์แลนด์ และเพียง 5 นาทีเข้าสู่ใจกลางเมือง

1. The Promenade

เดอะ พรอมานาด ศูนย์การค้าสไตล์ยุโรป เป็นหนึ่งในศูนย์การค้าใหญ่และยอดนิยมที่สุดในย่านรามอินทรา-มีนบุรี ที่นี่จะโดดเด่นด้วยการตกแต่งภายใต้บรรยากาศที่โรแมนติค อบอุ่น สบายๆ ครบครันด้วยร้านอาหารชั้นนำ ธนาคาร คาเฟ่ของหวาน โรงภาพยนตร์ ฟิตเนส กูร์เมต์ มาร์เก็ต รวมไปถึงอีเว้นท์ที่น่าสนใจเปลี่ยนไปในแต่ละเดือน และยังเชื่อมต่อไปยังศูนย์การค้าห้างแฟชั่น ไอส์แลนด์, โฮมโปร อีกด้วย ที่อยู่ : ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230
เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00-22.00 น.
Credit images : www.reviewpromenade.blogspot.com

2. ตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนทร์

ตลาดน้ำวัดพระยาสุเรนทร์ หรือ ตลาดน้ำบึงพระยา เป็นตลาดน้ำย่านคลองสามวา ตั้งอยู่หลังริมคลองหลังวัดพระยาสุเรนทร์ นอกจากเราจะได้เข้าวัดสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์กันแล้ว ก็เดินเล่นชิลๆ กันต่อที่ตลาดน้ำได้เลย ที่นี่เต็มไปด้วยของอร่อยทั้งคาวหวาน เลือกกินกันอิ่มจุใจไปพร้อมๆ กับซึมซับบรรยากาศความคลาสสิกของชุมชนริมคลองและธรรมชาติอันร่มรื่น นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกของชุมชนจำหน่าย รวมไปถึงมีฟาร์มสัตว์น่ารักๆ ให้เราได้เพลิดเพลินในช่วงวันหยุดด้วย ที่อยู่ : 195 ถนนพระยาสุเรนทร์ แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น.
Credit images : www.pantip.com

3. The H cafe by Khaniece

คาเฟ่และร้านอาหารสุดร่มรื่น ตกแต่งด้วยสวนสไตล์อังกฤษ ภายในร้านบรรยากาศน่ารักๆ สบายๆ มีอาหารน่ากินหลากหลาย ทั้งอาหารไทย อาหารฟิวชั่น และเน้นเป็นอาหารสุขภาพ ที่รสชาติถูกปากคนไทยอย่างแน่นอน เช่น Pork chops Gravy sauce with Mash potatoes พอร์กชอปเนื้อนุ่มลิ้น เสิร์ฟพร้อมมันบด ราดด้วยซอสรสชาติเข้มข้นสูตรลับของทางร้าน ฯลฯ ที่ตั้ง : ซอยรามอินทรา 65 ถนนรามอินทรา กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : โซนคาเฟ่ 08.00-21.00 น. , โซนอาหาร 10.00-21.00 น.
Credit images : www.edtguide.com

4. แฟชั่น ไอส์แลนด์

ห้างสรรพสินค้าใหญ่ที่เป็นศูนย์กลางในย่านรามอินทรา-มีนบุรี เป็นแหล่งรวมไลฟ์สไตล์ที่มีความหลากหลาย ที่ตอบโจทย์ความต้องการทุกเพศทุกวัย ตั้งแต่วัยเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน และครอบครัว มีทั้งร้านค้า ร้านเสื้อผ้า ของใช้ชั้นนำต่างๆ ไปจนถึงของใช้ภายในบ้านที่ครบครันที่สุดแห่งหนึ่ง , ร้านอาหารขึ้นชื่อกว่า 100 ร้าน รวมถึงมีสวนสนุก Harbor Land สำหรับเด็กๆ โรงภาพยนตร์ ฯลฯ และในแต่ละเดือนจะมีการจัดกิจกรรม ณ ลานน้ำพุ เช่น เทศกาลผลไม้, เทศกาลรวมร้านอาหารอร่อย, เทศกาลเกี่ยวกับสัตว์น้อยใหญ่ ให้ทุกคนได้มาเลือกซื้อของ และเที่ยวชมกันอย่างสนุกสนานและพกความสุขกลับบ้านไปด้วย ที่อยู่ : ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพฯ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 10.00 น. – 21.00 น.
Credit images : www.edtguide.com

5. Stitch & Hammer Café Korapin

เครื่องหนังแบรนด์คนไทยที่ได้รับความนิยมในคนรุ่นใหม่ ตอนนี้ได้เปิดตัวคาเฟ่สุดเก๋ที่ชื่อว่า Stitch & Hammer Café ให้ทุกคนได้มาแฮงค์เอาท์ในบรรยากาศสบายๆ สไตล์ Industrial ที่มีความดิบเท่ๆ เน้นตกแต่งด้วยงานไม้และเหล็ก เมนูอาหารของที่นี่ก็เน้นเป็นออร์แกนิค โฮมเมดทำสดใหม่ทุกวัน นอกจากนี้คอกาแฟต้องลิ้มลองกาแฟคั่วบดพิเศษของทางร้านอย่าง Hammer Roast ที่อยู่ : 40 ซอยรามอินทรา 97 ถ.รามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 08.00-19.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 10.00-19.00 น.
Credit images : www.eec.co.th

6. Misstar Cafe by Davika

คาเฟ่ในสวนสไตล์อังกฤษของดาราสาว ใหม่ ดาวิกา โฮร์เน่ ตั้งอยู่ในบนถนนสุขาภิบาล 5 ย่านสายไหม คาเฟ่ธีมหวานๆ รายล้อมไปด้วยดอกไม้และสวนสวยๆ โดดเด่นด้วยอาคารสีขาวตกแต่งด้วยหน้าต่างบานใหญ่ ทุกมุมตกแต่งอย่างน่ารักไว้ให้สาวๆ ได้ถ่ายรูปสวยๆ และสัญลักษณ์ของร้านที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็ต้องเจอก็คือ ดวงดาว ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Misstar นั่นเอง ส่วนขนมก็มีทั้งเค้ก วาฟเฟิล รวมไปถึงเครื่องดื่มสีสันสดใส ดื่มแล้วชื่นใจ
ที่อยู่ : 23/3 ถนนสุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
เวลาเปิด-ปิด : วันอังคาร-อาทิตย์ 10.00-19.00 น. (ปิดวันจันทร์)

7. ตลาดน้ำขวัญ-เรียม

พาไปกิน เที่ยว ย้อนยุคแบบไทยๆ กันต่อที่ ตลาดน้ำขวัญ-เรียม ขึ้นชื่อว่าเป็นตลาดน้ำยอดนิยมมากที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ตั้งอยู่ริมคลองแสนแสบ ระหว่างวัดบำเพ็ญเหนือและวัดบางเพ็งใต้ เดินเล่นชมบรรยากาศพื้นบ้านแบบไทยๆ โดยทั้งสองฝั่งคลองจะมีร้านอาหาร ของทานเล่นมากกว่า 50 ร้าน รวมไปถึงของฝาก ของที่ระลึกต่างๆ อีกหลากหลายให้เราได้เลือกซื้อ อีกทังมีกิจกรรมฟาร์มสัตว์ สำหรับเด็กๆ ได้ป้อนอาหารสัตว์ และถ่ายรูป
ที่อยู่ : ซอยรามคำแหง 185 แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร 10510
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 07.00-18.00 น.
Credit images : http://photo-mobile-travel.blogspot.com

8. Safari World (ซาฟารี เวิล์ด)

เพิ่มความสุข และความสนุกกับครอบครัวในวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยการไปเที่ยวสวนสัตว์เก่าแก่แต่ยังเก๋า! ที่ ซาฟารี เวิล์ด ไม่ว่าจะรุ่นไหน อายุเท่าไหร่ เราก็ยังตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นสัตว์น้อยใหญ่ และสัมผัสพวกเขาอย่างใกล้ชิด ได้ชมความน่ารักและความแสนรู้ของสัตว์แต่ละชนิดจากการแสดงโชว์ต่างๆ ได้เห็นสัตว์หายาก-ใกล้สูญพันธุ์ ได้ใกล้ชิดหมี สิงโต โยราฟ ตัวเป็นๆ ถือเป็นประสบการณ์ที่คุ้มค่ามากๆ
ที่อยู่ : 99 ถนน ปัญญาอินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ 09.00-16.30 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ 09.00-17.00 น.

9. Amorini อมอรินี่

บูติค ไลฟ์สไตล์ มอลล์ บรรยากาศสบายๆ สไตล์เกาะซานโตรินี มีเอกลักษณ์เด่นคือโทนสีขาวฟ้าสดใส ตั้งอยู่เส้นรามอินทรา กม.12 หรือปากทางเข้าสวนสยาม ถึงแม้จะมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีร้านค้า, ร้านอาหาร อัดแน่นกว่า 30 ร้าน รวมไปถึง ท็อปส์ มาร์เก็ต, แม็ค โดนัลด์ เปิดตลอด 24 ชม. ฯลฯ เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัวที่จะมาผ่อนคลายในวันสบายๆ พบปะพูดคุยชิลๆ ในบรรยากาศที่ไม่แออัดผู้คนจนเกินไป
ที่อยู่ : ถนนสวนสยาม แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 10.00 – 22.00 น. Credit images : http://www.charcoaldesign.co.th/

awsa

Happiness at Bangna

ไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เลือกความสุขได้ด้วยตัวเอง ย่านบางนา “Happiness at Bangna” เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีไลฟ์สไตล์หลากหลาย ทั้งแหล่งแฮงค์เอ้าท์ ช้อปปิ้ง คาเฟ่ ร้านอาหาร เป็นต้น ซึ่งตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองในปัจจุบันได้อย่างลงตัว และหากใครกำลังมองหาที่อยู่อาศัยในย่านบางนา พักผ่อนในบรรยากาศร่มรื่น รวมถึงใกล้แหล่งแฮงค์เอ้าท์นี้ โครงการ Areeya – Bangna ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

Sanctuary Cafe and Restaurant
ร้านอาหารสไตล์วินเทจ ที่ดัดแปลงมาจากบ้านเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี เหมาะกับวันหยุดสบายๆ ชวน เพื่อนมานั่งเม้าท์ จิบชา กินเค้ก หรือพาครอบครัวมาทานอาหารอร่อยๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสนร่มรื่น รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียวนานาชนิด รีเฟรชร่างกายในช่วงวันหยุดได้ดีสุดๆ เมนูขึ้นของที่นี่คือ ขาหมูเยอรมัน และข้าวอบกุนเชียงหม้อดิน ได้ลองแล้วจะติดใจ
ที่อยู่ : ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 29 ตรงข้ามวัดมหาวงษ์ สมุทรปราการ เวลา : ร้านอาหาร เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ 11.00 – 22.00 น. (ปิดวันจันทร์) / ร้านกาแฟ เปิดทุกวันเวลา 7.00 – 21.30 น
ขอขอบคุณภาพจาก : Sanctuary Cafe and Restaurant

Sanctuary Cafe and Restaurant
ร้านอาหารกึ่งบาร์ ที่เจ้าของร้านได้รีโนเวตอู่ซ่อมรถเก่า ให้กลายมาเป็นแหล่งแฮงค์เอ้าท์และพักผ่อน ภายในร้านมีทั้งโซน indoor และ outdoor ตกแต่งสไตล์วินเทจผสมลอฟท์ ชวนแก๊งเพื่อนมานั่งชิลล์ และเพลิดเพลินไปกับดนตรีสด
ที่อยู่ : ถนนบางนา-ตราด แขวงบางนา บางนา กรุงเทพมหานคร
เวลา : 16.00 – 00.00 น. (ปิดวันจันทร์)
ขอขอบคุณภาพจาก :Small Talk

Early Bird Coffee & Dessert bar

ตั้งอยู่หลังเซ็นทรัลบางนา โดดเด่นด้วยสไตล์ของร้านที่นำตู้คอนเทนเนอร์มาดัดแปลงให้เป็นคาเฟ่เล็กๆ ด้านในตกแต่งแนวมินิมอล มีพื้นที่ให้เราได้นั่งทำงาน อ่านหนังสือ ไปพร้อมๆ กับทานของอร่อย ส่วนเมนูของหวานมีให้เลือกหลากหลาย รวมถึงเครื่องดื่มที่รสชาติเข้มข้น อีกทั้งยังมีเมนูของหวานใหม่ๆ ทุกช่วงเทศกาล ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองความอร่อยอีกด้วย
ที่อยู่ : ซอยบางนา-ตราด 23 บางนา กรุงเทพมหานคร
เวลา : จันทร์-ศุกร์ 08.30 – 19.00 น. / เสาร์-อาทิตย์ 09.30 – 19.00 น.

The 66 Cottage

ร้านกาแฟและโฮมเมดเบเกอรี่สไตล์อังกฤษ ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 66 หากเหนื่อยล้าจากการทำงาน ลองหาวันว่างมานั่งทานอาหาร ชาร์จพลังท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น ล้อมรอบไปด้วยสีเขียวของต้นไม้ ก็ดีไม่น้อย เมนูของหวานแนะนำก็คือ ชิบูย่า ฮันนี่โทสต์ ขนมปังหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ชุ่มฉ่ำซอสเนยน้ำผึ้ง อบกรอบนอกนุ่มใน เสิร์ฟพร้อมกับกล้วยหอม และไอศครีมที่ลูกค้าเลือกรสชาติได้เอง
ที่อยู่ : 66 ซอยสุขุมวิท 66 บางจาก พระโขนง กรุงเทพมหานคร เวลา : ทุกวัน 03.30 – 20.00 น.
ขอขอบคุณภาพจาก : The 66 Cottage


Seek Cafe’ 

ร้านเปิดใหม่ โดดเด่นด้วยอาหารสไตล์ฟิวชั่นที่คัดสรรวัถุดิบชั้นดีมากเสิร์ฟลูกค้า รวมไปถึงเบเกอรี่และเครื่องดื่มต่างๆ เหมาะสำหรับคนทุกวัย กลุ่มเพื่อน และครอบครัว นอกจากนี้ก็ยังมีพื้นที่ Co-Working Space ไว้สำหรับคนที่ต้องการนั่งทำงาน ประชุม หรือติวหนังสือ พร้อมฟรี WiFi อีกด้วย
ที่อยู่ : 66 ซอยสุขุมวิท 66 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร
เวลา : ทุกวัน 03.30 – 20.00 น.
ขอขอบคุณภาพจาก : Seek Cafe’


Smooth & Simple

ช่วงนี้ สาย healthy มาแรง! ก็เลยอยากเอาใจคนรักสุขภาพกันสักหน่อย โฮมมี่คาเฟ่ ตกแต่งด้วยโทนสีขาวและต้นไม้สีเขียว ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ที่บ้าน เมนูไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้เลย ก็คือ Acai mixed berry simple bowl Smoothie Bowl ซึ่งเจ้าของร้านใส่ใจกับการทำทุกขั้นตอน รวมถึงวัตถุดิบก็เป็นโฮมเมด
ที่อยู่ : หมู่บ้านทิพวัล ซ.13 เมืองสมุทรปราการ สมุทรปราการ
เวลา : วันอังคาร – วันอาทิตย์ 10.00 – 20.00 น. (ปิดวันจันทร์)
ขอขอบคุณภาพจาก : Smooth & Simple


HIRO Japanese Restaurant 

ขอเอาใจคนรักปลาดิบ ด้วยร้านอาหารญี่ปุ่น เซฟญี่ปุ่นแท้ๆ เมนูไฮไลท์เด็ดของที่นี่ก็คือ Bara chirashi Don ข้าวหน้าปลาดิบรวมชามใหญ่ยักษ์อลังการ เน้นเครื่องจุใจ ทั้ง แซลมอน, ฮามาจิ, ทูน่า, ปลาไหลย่าง, ไข่ปลาแซลมอน, ไข่กุ้ง, ไข่หวาน, อะโวคาโด และแตงกวา ชามนึงทานได้ 3-4 คนเลยหล่ะ หรือจะเป็นซุป Kaisen Okoge Ankake เป็นข้าวกรอบราดหน้าซีฟู้ด รสชาติเข้มข้น หากใครแวะไปต้องลอง!
ที่อยู่ : อาคารบิสโซ(Bizzo Bangna) ชั้นที่1 ห้องC100 ถ.บางนาตราด ซ.บางนาตราด23
เวลา : 13.00 – 15.00 น. และ 17.00 – 22.00 น.
ขอขอบคุณภาพจาก : HIRO Japanese Restaurant


 Loft Bar

บาร์สุดเท่ แหล่งแฮงค์เอ้าท์เอาใจนักดื่มและคนชอบสังสรรค์ มีให้เลือกชิลล์ทั้งโซน Indoor และ Outdoor พร้อมสนุกไปกับดนตรีสด ฟังเพลงเพราะๆ ไปพร้อมกับการจิบไวน์ และเครื่องดื่มแอลกฮอล์ต่างๆ หากใครเป็นคอเบียร์ ทางร้านก็มีให้เลือกจากหลากหลายประเทศ รวมถึงมีบุฟเฟ่เบียร์ และ happy hour ออกมาเป็นระยะ
ที่อยู่ : ซอยบางนา-ตราด 23 บางนา กรุงเทพมหานคร
เวลา : ทุกวัน 16.00 – 01.00 น.
ขอขอบคุณภาพจาก : Loft Bar


MEGA BANGNA

เมกาบางนา ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย และย่านบางนา แหล่งรวบรวมไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ทั้งของกิน ของใช้ ความบันเทิงต่างๆ ครบในที่เดียว อีกทั้งยังเปิดโซนใหม่ Mega FoodWalk กึ่ง Outdoor บนพื้นที่กว่า 20,000 ตรม. ที่รวมร้านอาหาร ของหวาน ชื่อดังต่างๆ ไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลองความอร่อยกันอย่างจุใจ ลานด้านล่างก็จะมีอีเว้นท์ต่างๆ คอยจัดแสดงอยู่ตลอด
ที่อยู่ : ถนนบางนา-ตราด ตำบล บางแก้ว บางพลี สมุทรปราการ
เวลา : ทุกวัน 10.00 – 22.00 น.
ขอขอบคุณภาพจาก : Mega Bangna

awsa

บ้านเปล่าหรือบ้านพร้อมเฟอร์ฯ แบบไหนคุ้มกว่ากัน

เวลาจะซื้อบ้านเราคงเคยสังเกตว่าจะมีทั้งโครงการที่ขายบ้านเปล่าและบ้านพร้อมเฟอร์นิเจอร์ ว่าแต่การขายบ้าน 2 แบบนี้มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง แล้วคุณชอบการซื้อบ้านแบบไหน ถ้าอยากทราบลองเข้ามาอ่านเลยครับ

บ้านตกแต่งพร้อมเฟอร์นิเจอร์

เรียกกันหลายแบบทั้งบ้านพร้อมเฟอร์ฯ บ้านแต่งครบ บ้านแต่ง Fully Furnished สุดแท้แต่จะเรียกกันครับ แต่จะมีอยู่ 2 แบบ คือบ้านตัวอย่าง ซึ่งโครงการมักจะขายออกไปช่วงท้ายๆ ก่อนปิดโครงการ และบ้านมาตรฐานที่เป็นบ้านเปล่ามาแต่งเฟอร์นิเจอร์เพิ่ม ซึ่งมักจะเป็นบ้านที่นำมาจัดโปรโมชั่นกระตุ้นยอดขาย

ซึ่งข้อดีของบ้านที่ตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ก็คือสะดวก ง่ายกับเราครับ เพราะไม่ต้องวัดขนาดพื้นที่บ้าน ไม่เสียเวลาหาซื้อเฟอร์นิเจอร์ ไม่ต้องยื่นกู้สินเชื่อเพื่อนำเงินมาตกแต่งบ้าน เพราะโครงการจะให้เฟอร์นิเจอร์มากับบ้าน ทำให้บ้านพร้อมใช้อยู่อาศัยแทบจะทันที เหลือแค่เฟอร์นิเจอร์และของใช้บางชิ้นที่เราซื้อซื้อเพิ่มภายหลัง

ส่วนข้อด้อยของการซื้อบ้านพร้อมเฟอร์นิเจอร์ที่เห็นได้ชัดก็คือ เฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้อาจไม่ตรงกับความชอบของเรา หรือไม่ตรงกับความต้องการใช้งานของเรา เพราะโครงการบ้านก็จะเลือกเฟอร์นิเจอร์แบบกลางๆ มาครับ กลางทั้งสไตล์ สีสัน ที่ส่วนมากเลือกสีเอิร์ธโทนมาให้ ขนาดก็อาจเลือกแบบกลางๆ เช่น โซฟาสำหรับนั่งได้ 2-3 คน แต่โซฟาที่เราอยากได้อาจจะต้องนั่งได้สัก 4 คน เพราะสมาชิกในบ้านเยอะ เป็นต้น

อีกข้อสำหรับบ้านที่ให้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน แม้เฟอร์นิเจอร์จะลงตัวกับพื้นที่ ทำให้ใช้งานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยมากขึ้น แต่ก็เป็นเรื่องยากหากเราอยากปรับเปลี่ยนการใช้งานภายหลัง

บ้านเปล่า

ภายในบ้านก็จะเปล่าๆ ครับ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งใดๆ ทั้งสิ้น จะมีแค่สุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำ ไฟส่องสว่าง ก๊อกน้ำ ที่เกี่ยวข้องกับงานระบบน้ำ ไฟของบ้าน บางแห่งอาจให้โครงสร้างครัวปูนมาในห้องครัวด้วย ส่วนหน้าบานตู้ต่างๆ อาจจะมีหรือไม่มีก็ตามแต่นโยบายของโครงการ

ซึ่งข้อดีของการซื้อบ้านเปล่าก็คือ เราสามารถเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ได้ตามสไตล์ที่เราต้องการ เช่น เราอาจชอบเฟอร์นิเจอร์สไตล์ย้อนยุคก็สามารถไปหาซื้อในใช้งานในบ้านได้เลย ซึ่งแหล่งเลือกช้อปปิ้งหาเฟอร์นิเจอร์ก็มีมากมายครับ ทั้งในห้างสรรพสินค้า IKEA, Index Living Mall, HomePro, SB Furniture ฯลฯ ซึ่งเราก็สามารถเดินเลือกแบบสไตล์ ขนาดเฟอร์นิเจอร์ รวมถึงทดลองใช้งานเฟอร์นิเจอร์นั้นก่อนได้
อีกเรื่องคือเหมาะสำหรับคนที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้ว เช่น ย้ายจากบ้านเก่ามาบ้านใหม่ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดิมๆ ก็ยังสามารถใช้ได้อยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ซื้อบ้านเปล่าก็จะเหมาะกับเรามากกว่า

ส่วนข้อด้อยของการซื้อบ้านเปล่าก็คือ เราต้องเสียเวลา เสียพลังงานที่จะไปดูตามแหล่งขายเฟอร์นิเจอร์ แม้ว่าจะมีเว็บไซต์ที่มีรูปเฟอร์นิเจอร์ มีสเปกวัสดุ ขนาด ราคาให้เสร็จสรรพ แต่หลายคนก็ยังอยากจะไปลองใช้ ลองจับของจริงก่อน ถ้าไม่ถูกใจก็จะได้ไม่ซื้อ

ข้อที่สองคือมีความยุ่งยาก นอกจากต้องไปหาซื้อแล้วยังมีภาระเรื่องการขนส่งกลับมาที่บ้านด้วย เพราะผู้ขายเฟอร์นิเจอร์บางรายถ้าซื้อแล้วขนกลับเองก็จะไม่มีค่าขนส่ง แต่ถ้าใช้บริการขนส่งของผู้ขายก็จะคิดค่าขนส่งเพิ่มไปอีกเป็นรายครั้ง ถ้ารายไหนขนส่งให้ฟรีก็ถือว่าเบาภาระไปได้ครับ ได้เฟอร์นิเจอร์กลับมาก็ต้องประกอบอีก อย่าคิดว่าเรื่องง่ายๆ นะครับ อย่างตู้เสื้อผ้านี่ผู้เขียนเคยประกอบเองคนเดียวมาแล้วบอกเลยว่าหนัก เหนื่อยพอสมควรเลย

อีกเรื่องสำคัญที่หลายคนมักลืม

ที่หลายคนลืมนึกถึงคือตอนซื้อบ้านมองแต่เรื่องกู้ซื้อบ้าน ค่าโอนกรรมสิทธิ์ ค่าจดจำนอง ค่าส่วนกลาง ซึ่งก็เป็นเงินจำนวนไม่น้อย แต่ก็มักลืมอีกเรื่องสำคัญไป นั่นคือ

“ลืมเผื่อเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์”

ถ้าคุณย้ายจากบ้านเก่าที่มีเฟอร์นิเจอร์อยู่แล้วก็คงไม่เป็นปัญหาเท่าไร แต่ถ้านี่เป็นบ้านหลังแรก หรือย้ายจากบ้านของครอบครัวมาสร้างครอบครัวอยู่บ้านใหม่ หรือจะอย่างไรก็ตามที่ลงท้ายด้วยไม่มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆ มาใช้ที่บ้านใหม่ รวมถึงราคาติดตั้งผ้าม่านทั้งหลังซึ่งราคาก็มิใช่น้อย บอกได้ว่าปัญหาหนักอยู่นะครับ

เพราะถ้าคุณซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่งบ้านใหม่ทั้งหลังนี่ต้องใช้เงินอยู่พอสมควร ทั้งค่าเฟอร์นิเจอร์ ค่าเดินทาง ฯลฯ ยกตัวอย่างว่าเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำนะครับ ถ้าแต่งครบทั้งบ้านต้องเผื่องบไว้สัก… 2 แสนบาท!! ถ้าทาวน์โฮม 2 ล้านบาท ก็ตีไป 10% ของราคาบ้านเลยครับ

โดยส่วนมากการประมาณงบสำหรับตกแต่งที่นิยมคือเผื่อไว้ 10-15% ของราคาบ้าน ซึ่งตรงนี้ก็แล้วแต่งบประมาณของเราด้วยนะครับ ยกตัวอย่าง บางคนมีความสามารถผ่อนชำระได้สูงก็อาจเพิ่มงบตกแต่งบ้านไปถึง 20% หรือมากกว่านั้นก็ได้ หรือถ้างบน้อยก็อาจจะเผื่อไว้ที่ 10% หรือลดต่ำกว่านั้นอีกนิดก็ยังได้

และต้องไม่ลืมอีกนะครับว่าหากกู้สินเชื่อเพื่อตกแต่ง ก็จะเป็นเงินกู้อีกก้อนที่อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่ากู้ซื้อบ้านครับ เพราะเป็นการกู้อเนกประสงค์ หรือสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ตั้งแต่ 18-28% ต่อปี แล้วแต่โปรโมชั่นของทางธนาคาร ทำให้เรามีภาระค่าใช้จ่ายเพิ่ม 2 ต่อ ดังนั้นต้องคำนวนรายจ่ายตรงนี้ไว้แต่เนิ่นๆ ครับ

ซึ่งตรงจุดนี้บ้านแถมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลังก็จะมาช่วยแบ่งเบาภาระในส่วนนี้ได้ ตั้งแต่เรื่องการกู้เงิน เพราะเป็นการกู้เงินครั้งเดียวได้ดอกเบี้ยสำหรับกู้ซื้อบ้านที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยสินเชื่ออเนกประสงค์ ไม่ต้องหาเฟอร์นิเจอร์มาใช้งาน หากไม่ถูกใจชิ้นไหนก็ซื้อมาเปลี่ยนเป็นชิ้นๆ ไป หรือจ่ายเงินซื้อเฉพาะสิ่งที่โครงการไม่ได้แถมมากับบ้านก็ช่วยประหยัดเงินได้เป็นแสนครับ

.

.

หรืออีกทางเลือกคือซื้อเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักมาใช้ไปก่อน แล้วค่อยซื้อชิ้นอื่น ๆ มาเพิ่มเติมภายหลัง ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกัน

.

.

แล้วคุณว่าแบบไหนดีกว่ากัน?

.

.

แต่ถ้าต้องการบ้านที่มาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ทั้งหลังแบบได้ครบจบในครั้งเดียว เราก็มีแคมเปญดีๆ จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้านมาฝากครับ

“อารียา ให้ครบจบเลย”

คลิกลงทะเบียน

แคมเปญดีๆ จากอารียา พรอพเพอร์ตี้ สำหรับคนที่กำลังมองหาบ้าน ซื้อบ้านแล้วได้เฟอร์นิเจอร์เกือบทั้งหลัง เพิ่มความสะดวกสบายไม่ต้องจ่ายเงินซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่ทั้งหมด ที่บ้านของคุณจะมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ และชุดของใช้จำเป็นภายในบ้าน ที่ทำให้คุณเก็บแค่กระเป๋าแล้วย้ายมาแต่ตัวก็อยู่ได้จริงๆ

เฉพาะลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือทาวน์โฮมในโครงการของ บมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ หรือบริษัทในเครือที่เข้าร่วม ภายในวันที่ 9 ก.ค.2561-16 ก.ย.2561 รับฟรี

  • เฟอร์นิเจอร์ SB (ชุดห้องนอน, ห้องนั่งเล่นและห้องครัวอย่างละ 1 ชุด), ผ้าม่าน มูลค่ารวมตั้งแต่ 158,000 บาท ไปจนถึง 550,000 บาท (ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ)
  • เครื่องใช้ไฟฟ้า 7 ชิ้น (แอร์ 12,000 BTU, ตู้เย็น 13 คิว, LED TV 42 นิ้ว, ไมโครเวฟ 32 ลิตร, เครื่องทำน้ำอุ่น, เครื่องซักผ้าฝาบน, เครื่องกรองน้ำ 6.5 ลิตร) มูลค่ารวมไม่เกิน 60,000 บาท
  • ชุด Complete Life Set (จาน, ช้อนส้อม, แก้วน้ำ, ชุดปลอกหมอน, ผ้าปูที่นอน, รองเท้าสลิปเปอร์, แปรงสีฟัน, ผ้าเช็ดตัว)
  • ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์
  • ฟรีค่าจดจำนอง
  • ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี
  • ฟรี Hi-Speed Internet AIS 100 Mbps.

*ของแถมเป็นไปตามรูปแบบที่บริษัทกำหนด
**จัดส่งของแถมให้ที่โครงการภายใน 60 วันนับจากจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
***ของแถมไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
****สงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.areeya.co.th หรือ โทร. 1797 กด 44

awsa

อารียา กล้าท้ามาตัวเปล่าก็ลงทุนอสังหาฯ ได้ชิลล์ๆ ผ่านแคมเปญ “อารียา ให้ครบจบเลย”

อารียา กล้าท้ามาตัวเปล่าก็ลงทุนอสังหาฯ ได้ชิลล์ๆ ผ่านแคมเปญ “อารียา ให้ครบจบเลย”

เพราะการเป็นเจ้าของบ้านสักหลัง สำหรับใครบางคนอาจหมายถึงการเก็บเงินทั้งชีวิต ยิ่งถ้าซื้อเพื่อลงทุนแล้วยิ่งต้องคิดหนักยิ่งกว่า ถึงต้นทุนกำไร ระยะเวลาคืนทุก ไหนจะค่าใช้จ่ายที่มองไม่เห็น อย่างค่าโอน, ค่าจดจำนอง หรือเสียเวลาไปซื้อเฟอร์นิเจอร์มาอีก
เหล่าผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์มองเห็นถึงอินไซต์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยและนักลงทุนเหล่านี้ดี ต่างครีเอตสารพัดกลยุทธ์ออกมาเสิร์ฟลูกค้า หนึ่งในนั้นคือ อารียา พร็อพเพอร์ตี้ ค่ายอสังหาฯ ที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานาน เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกับแบรนด์นี้มาแล้วถึงสไตล์การสื่อสารการตลาดโชว์ความครีเอทคิดต่าง กล้าเกรียนเล็กๆ เพื่อเข้าไปอยู่ในใจกลุ่มเป้าหมาย

เช่นเดียวกับแคมเปญล่าสุด “อารียา ให้ครบจบเลย” “ที่ปล่อย online VDO” สุดแนวที่ใครดูก็อดอมยิ้มไม่ได้กับความกวนเล็กๆ ของครีเอทีฟ ตอกย้ำแกนหลักของแคมเปญท้าทายผู้บริโภค กับการโชว์การใช้ชีวิตแบบมินิมอลเกินพอดี แต่คุณไม่จำเป็นต้องใช้ชีวิตแบบนั้น ถ้าเลือกแคมเปญ “อารียา ให้ครบจบเลย”
จุดเด่นของแคมเปญนี้อยู่ที่การให้โปรโมชั่นครบทุกอย่าง ชนิดว่า “มาแต่ตัวเข้าอยู่ได้เลย” ซึ่งเป็นจุดแข็งของอารียาที่ทำมาโดยตลอด ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ลูกค้ายุคใหม่ ที่มาแต่ตัวก็เข้าอยู่ได้เลย แบบเดียวกับชื่อแคมเปญที่ว่า ให้ครบ จบเลย โดยลูกบ้านได้ครบทุกอย่างฟรี! ถึง 7 รายการ ได้แก่

  1. เฟอร์นิเจอร์ SB (ชุดห้องนอน,ห้องนั่งเล่นและห้องครัวอย่างละ1ชุด),ผ้าม่าน มูลค่ารวมตั้งแต่ 158,000 บ. ไปจนถึง 550,000 บ.(ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ)
  2. เครื่องใช้ไฟฟ้า 7 ชิ้น(แอร์12,000BTU,ตู้เย็น13คิว,LED TV 42นิ้ว,ไมโครเวฟ32ลิตร,เครื่องทำน้ำอุ่น,เครื่องซักผ้าฝาบน,เครื่องกรองน้ำ 6.5 ลิตร) มูลค่ารวมไม่เกิน 60,000 บ.
  3. ชุด Complete Life Set (จาน,ช้อนส้อม,แก้วน้ำ,ชุดปลอกหมอน,ผ้าปูที่นอน,รองเท้าสลิปเปอร์,แปรงสีฟัน,ผ้าเช็ดตัว) มูลค่ารวมไม่เกิน 2,000 บ.
  4. ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์
  5. ฟรีค่าจดจำนอง
  6. ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี
  7. ฟรี Hi-Speed Internet AIS 100 Mbps

ไม่เพียงแต่สิทธิประโยชน์ที่ลูกบ้านจะได้จากแคมเปญนี้เท่านั้น หากมองในมุมของนักลงทุนที่กำลังมองหาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุนแคมเปญนี้ยังตอบโจทย์ในเชิงการลดต้นทุน โดยสามารถแบ่งข้อดีออกเป็นข้อๆ ได้ดังนี้

  1. สามารถปล่อยเช่าได้เลย
  2. ประมาณการต้นทุนได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
  3. ช่วยลดต้นทุนในการลงทุน เพราะไม่ต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์มาแต่ง หรือติดตั้ง Hi-Speed ไม่ต้องเสียค่าโอนกรรมสิทธิ์, ค่าจดจำนอง, ค่าส่วนกลาง 2 ปี ซึ่งทำให้ประหยัดต้นทุนไปได้ตั้งแต่ 2 แสนถึง 8 แสนบาท (ขึ้นอยู่โครงการและขนาดของบ้านที่เลือกซื้อ)
  4. สามารถนำเงินที่ไม่ต้องเสียไปกับค่าโอนหรือค่าเฟอร์นิเจอร์ ไปลงทุนในรูปแบบอื่น เป็นการสร้างรายได้เพิ่มจากช่องทางอื่น กระจายความเสี่ยง

แคมเปญ “อารียา ให้ครบจบเลย” มีโครงการให้เลือกถึง 4 ทำเล 15 โครงการ เพื่อตอบโจทย์การอยู่อยู่อาศัยและความสะดวกสบายที่หลากหลาย ได้แก่

  • ทำเลบางนา : เดอะคัลเลอร์ส บางนา-วงแหวนฯ 2, เดอะวิลเลจ บางนา-วงแหวนฯ 2
  • ทำเลวงแหวนฯ-รามอินทรา : เดอะคัลเลอร์ส วงแหวนฯ-รามอินทรา 2, อารียา โคโม่ วงแหวนฯ-รามอินทรา
  • ทำเลรังสิต : อารียา บริกก์ รังสิต-วงแหวนฯ, อารียา บริกก์ รังสิต-คลอง 4, เดอะคัลเลอร์ส รังสิต-คลอง 4, เดอะคัลเลอร์ส มิกซ์ รังสิต-วงแหวนฯ, เดอะ วิลเลจ รังสิต-วงแหวนฯ
  • ทำเลกาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์ : เดอะคัลเลอร์ส พรีเมียม กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์, เดอะ เพลส กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์, เดอะ วิลเลจ คอทเทจ กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์, เดอะ วิลเลจ กาญจนาภิเษก-ราชพฤกษ์, เดอะคัลเลอร์ส วงแหวน-ราชพฤกษ์, อารียา โคโม่ วงแหวน-ราชพฤกษ์




พบกับแคมเปญ “อารียา ให้ครบจบเลย” ได้ภายใน 9 ก.ค.2561 – 16 ก.ย.2561 เฉพาะลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือทาวน์โฮมในโครงการของบมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้หรือบริษัทในเครือที่เข้าร่วม ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 1797 หรือ www.areeya.co.th

หมายเหตุ*ของแถมเป็นไปตามรูปแบบที่บริษัทฯกำหนด**จัดส่งของแถมให้ที่โครงการภายใน 60 วันนับจากจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์***ของแถมไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้****สงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า

awsa

เทรนด์การซื้อบ้าน 2018 มือใหม่ที่ต้องการซื้อ “บ้านหลังแรก” ต้องเลือกอะไรบ้าง ?

“บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือหัวใจของสมาชิกในครอบครัว หากจะซื้อบ้านหลังแรกในชีวิตก็ต้องเลือกกันหน่อย นอกจากต้องมีวินัยทางการเงินที่ดี เดินบัญชีให้สวยงามแล้ว ยังมีอะไรอีกบ้างไปดูกันค่ะ

เทรนด์การซื้อบ้าน 2018 สำหรับมือใหม่ที่ต้องการซื้อบ้านหลังแรกจะต้องเลือกอะไรบ้าง ?

1. ทำเลที่ตั้งโครงการ ในการเลือกทำเลที่ตั้งโครงการ

ไม่จำเป็นต้องติดถนนใหญ่ ใกล้รถไฟฟ้าเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญจริง ๆ คือเราต้องเลือกทำเลที่ตัวเราเองนั้นใช้ชีวิตได้สะดวก ไปทำงาน ไปส่งลูกที่โรงเรียนไม่ยาก อยากช้อปปิ้ง ซื้อของสดกลับมาทำอาหารที่บ้าน ก็มีห้างสรรพสินค้า มีตลาดสดในรัศมีใกล้ ๆ เวลาเจ็บไข้ไม่สบายก็ขอให้มีโรงพยาบาลใกล้ ๆ ให้เราได้อุ่นใจ

2. สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการ

แต่ละโครงการก็จะมีการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้เหมาะสมกับจำนวนยูนิตบ้าน รวมถึงมีการออกแบบให้น่าสนใจแตกต่างกันไป  โดยส่วนกลางมาตรฐานที่ต้องมีทุกโครงการก็คือ สวนพักผ่อน ขนาดแล้วแต่พื้นที่โครงการ ต่อมาเป็นคลับเฮ้าส์, สระว่ายน้ำ และ ฟิตเนส ผู้ซื้อที่ชอบการออกกำลังกาย หรือ มีเด็ก ๆ ที่ชอบว่ายน้ำ อันนี้ตอบโจทย์  แต่ถ้าผู้ซื้อไม่ได้ต้องการที่จะใช้ล่ะ ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกโครงการที่มีส่วนกลางขนาดใหญ่ก็ได้ ข้อดีคือ ค่าส่วนกลางก็จะถูกลง รายจ่ายต่อเดือนก็จะสบายกระเป๋าเรามากขึ้นนั่นเอง

3. หน้าตาของบ้าน ข้อนี้ก็แล้วแต่ความชอบของผู้ซื้อ

จะโมเดิร์น, คอนเทมโพรารี่ หรือ คอทเทจ เดี๋ยวนี้ดีเวลลอปเปอร์ก็ทำมาหลากหลาย ผู้ซื้อสามารถเลือกได้ตามชอบ

4. วัสดุ-โครงสร้าง

ข้อนี้สำคัญการเลือกซื้อบ้านต้องดูความน่าเชื่อถือของเจ้าของโครงการ วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างมีคุณภาพไหม ผู้ซื้อบางคนเข้าใจกับคำว่า “บ้านที่แข็งแรงต้องก่ออิฐฉาบปูนเท่านั้น”  จริง ๆ แล้ว บ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบพรีแคส เค้าก็มีข้อดีเหมือนกันนะ เช่น พรีแคส มีความแข็งแรงกว่าการก่ออิฐทั่วไปถึง 3 เท่า, กันเสียงรบกวนจากภายนอกเข้ามาในบ้านได้ดี, ป้องกันความร้อน และ ทนไฟได้มากกว่า, รับแรงแผ่นดินไหวได้  นอกจากบ้านระบบพรีแคสแล้ว เดี๋ยวนี้ก็ยังมีบ้านที่ก่อสร้างด้วยระบบ Aluminum formwork system เป็นการเทคอนกรีตผนังเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหลัง มีความแข็งแรงกว่าโครงสร้างแบบการก่ออิฐทั่ว ๆไปหลายเท่า  เนื่องจากมีการเสริมเหล็กภายในผนัง และเป็นการเทคอนกรีตครั้งเดียวทั้งหลัง จึงไม่มีปัญหาน้ำซึมตามรอยต่อของผนัง และยังช่วยกันเสียงจากภายนอกได้ดีอีกด้วย

รวมถึงไม่ต้องกังวลเรื่องเสาคานต่าง ๆ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเพิ่มมากขึ้น ทั้งหมดทั้งมวลก็แล้วแต่ความชอบนะคะ ซึ่งรายการวัสดุเบื้องต้นต่าง ๆ ผู้ซื้อสามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย และ ขอดูบ้านตัวอย่างที่โครงการเพื่อให้เห็นภาพชัด ๆ กันได้เลยค่ะ

5. ฟังก์ชั่นภายในบ้าน

ปัจจุบันเทรนด์บ้านสมัยใหม่ ถึงแม้จะเป็นทาวน์โฮม 2 ชั้น ดีเวลลอปเปอร์ต่าง ๆ ก็เริ่มออกแบบให้มีห้องนอนเพิ่มขึ้น หรือเพิ่มเป็นห้องอเนกประสงค์ เพื่อตอบรับความต้องการของผู้ซื้อที่อยากจ่ายราคาเท่าเดิม แต่ได้ฟังก์ชั่นบ้านที่เพิ่มมากขึ้น คุ้มค่ากับเม็ดเงินที่ต้องจ่ายไป  ส่วนของบ้านแฝด 2 ชั้น และ บ้านเดี่ยว 2 ชั้น ด้วยพื้นที่ใช้สอยที่มีมากพอสมควรอยู่แล้ว ก็อาจจะดูในเรื่องของฟังก์ชั่นห้องนอนล่าง เพื่อรองรับผู้สูงอายุ หรือ ใช้เป็นห้องทำงาน ทำการบ้านของลูก ๆ  แล้วเลือกยังไง ? อันดับแรกนับสมาชิกในครอบครัวเราก่อนเลยค่ะ ว่ามีกี่คน ฟังก์ชั่นห้องนอนเพียงพอต่อสมาชิกในครอบครัวไหม ห้องน้ำมีการแบ่งส่วนแห้ง ส่วนเปียกหรือเปล่า ห้องรับแขกขนาดไม่เล็ก ไม่ใหญ่จนเกินไป ขอแค่เพียงพอต่อการทำกิจกรรมกับสมาชิกในครอบครัว มุมทานอาหาร รองรับโต๊ะทานข้าว 4-6 ที่นั่ง แต่ครอบครัวเริ่มต้น 4 ที่นั่งก็เหลือเฟือ

มุมครัวล่ะ ชอบทำอาหารเบา ๆ แบบคนรุ่นใหม่ก็ดูครัวเปิด ที่มีพื้นที่ให้บิวท์อินเคาน์เตอร์ครัว มีการเดินระบบประปารองรับไว้ให้ก็พอ แต่หากชอบทำครัวหนัก ก็ดูพื้นที่ซักล้างหลังบ้าน เพื่อการต่อเติมครัวไทยในอนาคต ถ้าทุกอย่างตอบโจทย์ก็โอเค

6 ราคา-โปรโมชั่น สิ่งที่ผู้ซื้อบ้านหลังแรกต้องการที่สุด

จริง ๆ ก็คือ “อยากได้บ้าน-ทาวน์โฮมในราคาที่ดีที่สุดและคุ้มค่าที่สุด” หลายดีเวลลอปเปอร์ก็มีการแข่งขัน เพื่อระบายโครงการพร้อมอยู่ต่าง ๆ โดยจัดราคา และ โปรโมชั่นสุดคุ้มออกมาแข่งขันกันมากมาย  ซึ่งส่วนมากถึงจะได้ราคาที่ถูกลงแล้ว แต่บ้านที่ได้รับก็คือบ้านเปล่ามาตรฐาน ที่ต้องซื้อของเข้าบ้านถึงจะอยู่อาศัยได้จริงอยู่ดี   บางคนซื้อบ้านแล้ว แต่…ไม่มีเงินเหลือซื้อของเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้าน ก็ต้องรอเวลาเริ่มเก็บเงินใหม่ กว่าจะได้อยู่จริงก็ใช้เวลายาวไปอีกหลายเดือน

ถ้าเจ้าไหนจัดโปรโมชั่นแถมเฟอร์นิเจอร์ + เครื่องใช้ไฟฟ้าเพิ่มเข้าไปแล้วด้วยนั้น น่าจะถูกใจผู้ซื้อในยุคเศรษฐกิจแบบนี้เป็นอย่างมาก  ข้อดีของโปรโมชั่นได้บ้านพร้อมเฟอร์ฯ คือ ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาไปซื้อของเอง ไม่ต้องเลือกเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ให้ปวดหัว เพราะโครงการที่แถมเฟอร์นิเจอร์ให้ เค้าจะเลือกมาให้แล้ว ลงตัว พอดีกับขนาดบ้านเราแน่นอน

สิ่งสุดท้ายที่คนซื้อบ้านมือใหม่ต้องการมากเช่นกัน คือ ค่าใช้จ่ายวันโอน โครงการไหนฟรี ! ค่าใช้จ่ายวันโอนทุกอย่างได้ ยิ่งตอบโจทย์ นอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายส่วนต่างแล้ว ยังมีเงินเหลือไปทำอย่างอื่นได้อีกเยอะเลยล่ะ

จะดีกว่าไหมคะ ถ้าซื้อบ้านพร้อมอยู่ ไม่ต้องรอสร้าง แล้วได้เฟอร์นิเจอร์ + เครื่องใช้ไฟฟ้าครบชุดเกือบทั้งหลัง แถมฟรี ! ค่าใช้จ่ายวันโอน มูลค่ารวมเกือบ 3 แสนบาท*

วันนี้เรามีโปรโมชั่นดีดีมานำเสนอ ตอนนี้ทาง “อารียา พรอพเพอร์ตี้” เค้าจัดแคมเปญแรง ๆ มอบความสุขให้คนอยากมีบ้านพร้อมอยู่ ไม่ต้องรอสร้าง… เสิร์ฟแคมเปญใหญ่ “ให้ครบ…จบเลย” บ้านแต่งครบ ดีไซน์เก๋ ทันสมัย พร้อมฟรีเฟอร์นิเจอร์แบรนด์ชั้นนำ และ Complete Life Set ที่สามารถมาแต่ตัวก็เข้าอยู่ได้เลย ตอบสนองทุกความต้องการของคนที่อยากมีบ้านได้อย่างตรงจุด สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น อย่างที่ไม่เคยมีบริษัทใดทำมาก่อน… จุดแข็งของแคมเปญนี้ ต้องบอกเลยนะคะว่า “มาแต่ตัวก็เข้าอยู่ได้เลยจริง ๆ” โดยทาง อารียา พรอพเพอร์ตี้ เล็งเห็นถึงความสำคัญของเวลาซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าสำหรับผู้บริโภคไทยในยุคที่อยู่ในความเร่งรีบ ทางอารียาจึงขอมอบความสุขพร้อมเสิร์ฟ และ อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้า ด้วยบ้านที่ไม่ใช่แค่แต่งครบ แต่ยังมอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และ Set ของใช้ในบ้าน ใน 15 โครงการบ้านเดี่ยว และ ทาวน์โฮมพร้อมอยู่ของอารียาฯ

สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับในแคมเปญ “อารียา ให้ครบจบเลย” ก็จะมีเฟอร์นิเจอร์จาก SB ได้แก่ ชุดห้องนอน, ห้องนั่งเล่น และ ห้องครัว อย่างละ 1 ชุด รวมถึงติดตั้งผ้าม่านให้ทั้งหลัง (อันนี้เป็นอีกสิ่งที่คนซื้อบ้านมักจะลืม และมีค่าใช้จ่ายสูงมาก) มูลค่ารวมตั้งแต่ 158,000 บ. ไปจนถึง 550,000 บ. (ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ) ในส่วนของเครื่องใช้ไฟฟ้ามีให้ถึง 7 ชิ้น ประกอบไปด้วย แอร์ 12,000 BTU, ตู้เย็น 13 คิว, LED TV 42 นิ้ว, ไมโครเวฟ 32 ลิตร, เครื่องทำน้ำอุ่น, เครื่องซักผ้าฝาบน, เครื่องกรองน้ำ 6.5 ลิตร มูลค่ารวมไม่เกิน 60,000 บ.

ชุด Complete Life Set อันนี้เก๋สุด เพราะยังไม่เคยเห็นใครให้มาก่อน รับจาน, ช้อน-ส้อม, แก้วน้ำ, ชุดปลอกหมอน, ผ้าปูที่นอน, รองเท้าสลิปเปอร์, แปรงสีฟัน และ ผ้าเช็ดตัว

นอกจากเฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า และ ชุด Complete Life Set แล้วทางอารียาฯ จัดหนัก x 2 ด้วยการ ฟรีค่าโอนกรรมสิทธิ์, ฟรีค่าจดจำนอง, ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี และ ฟรี Hi-Speed Internet AIS 100 Mbps

บอกได้เลยว่า…เป็นแคมเปญที่ตอบโจทย์คนอยากมีบ้านอย่างแท้จริง ครบ-คุ้มค่า แถมยังเหลือเงินในกระเป๋าไว้ซื้อของแต่งบ้านอื่น ๆ เพิ่มอีก สำหรับคนที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัยกันอยู่ ห้ามพลาดเลยนะคะ

แคมเปญนี้มีให้เลือกมากถึง 15 โครงการ ทั้งโครงการบ้านเดี่ยว-วิลเลจทาวน์-ทาวน์โฮม ดีไซน์เก๋ ทันสมัย ทุกโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ หลากหลายทำเลทั้งในกรุงเทพ และ โซนปริมณฑล ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปดูชื่อโครงการที่เข้าร่วม รายละเอียดต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่ : www.areeya.co.th

เอกสิทธิพิเศษนี้สำหรับลูกค้าที่จองและทำสัญญาระหว่างวันที่ 9 ก.ค.-16 ก.ย. 2561 เท่านั้นนะคะ

สอบถามข้อมูลและโปรโมชั่นเพิ่มเติมโทร : 1797

หมายเหตุ : “อารียา ให้ครบจบเลย” เฉพาะลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์บ้านหรือทาวน์โฮมในโครงการของบมจ.อารียา พรอพเพอร์ตี้ หรือ บริษัทในเครือที่เข้าร่วม ภายในวันที่ 9 ก.ค. 2561-16 ก.ย. 2561 รับฟรี

  • ของแถมเป็นไปตามรูปแบบที่บริษัทฯกำหนด
  • จัดส่งของแถมให้ที่โครงการภายใน 60 วันนับจากจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์
  • ของแถมไม่สามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
  • สงวนสิทธิ์เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
awsa

บ้านปูนเก่า มีวิธี ซ่อมผนังปูนร้าว อย่างไรบ้าง

ซึ่งคำถามยอดนิยมที่หยิบมาหาคำตอบ คือ บ้านปูนเก่ามี วิธีซ่อมผนังปูนร้าว อย่างไรบ้าง

จากคำถาม :
เนื่องด้วยบ้านปูน สร้างมานานกว่า22ปี เกิดรอยร้าวแบบนี้จะแก้ปัญหายังไงดี

ที่มา :
ปัญหาบ้านปูนแตกร้าว แก้ไขอย่างไร

คลายข้อสงสัย :
จากสองภาพที่เจ้าของกระทู้ได้ส่งมา มีลักษณะการร้าวในแนวดิ่งข้างเสาและบริเวณกลางผนัง ซึ่งถือว่าจัดอยู่ในรอยร้าวประเภทไม่เป็นอันตราย แต่ปล่อยไว้ก็ดูไม่สบายตาซักเท่าไหร่ วันนี้บ้านและสวนจึงมาบอกสาเหตุและวิธีแก้ไขผนังปูนร้าวตามภาพที่ได้ส่งมา นอกจากนี้เรายัง รวมปัญหาเรื่องรอยร้าว ไว้ให้ผู้อ่านลองไปตรวจสอบดูที่บ้านตัวเองกันครับ

รอยร้าวแนวดิ่งข้างเสา

สาเหตุ
เกิดจากการยืดหดตัวที่ไม่เท่ากันของวัสดุ เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลง และไม่ได้เสียบหนวดกุ้งในขั้นตอนการผูกเหล็กเสริมแรง จึงทำให้เกิดรอยร้าวตามแนวรอยต่อขึ้น

วิธีแก้
อาจใช้โฟมอุดรอยต่อหรือ PU เพื่ออุดรอยร้าว และทาสีทับ แต่ถ้ากรณีรอยร้าวมีขนาดลึกและกว้าง จำเป็นต้องทุบผนังเก่าและก่อผนังใหม่ โดนเสียบหนวดกุ้งที่เสาเข้ากับผนังทุกระยะ 30 เซนติเมตร

ข้อควรระวัง
หากมีการรั่วบนคานหรือเสาร่วมด้วย ให้พิจาณาปัญหาร่วมกัน เพราะอาจไม่ใช่แค่การยืดหดตัวของวัสดุ

รอยร้าวในแนวดิ่งจากคานลงมาบริเวณกลางผนัง

สาเหตุ
เกิดจากคานรับน้ำหนักมากเกินไป ทำให้คานแอ่นเป็นตัวตัว U กดทับลงมาที่ผนัง หรือเกิดจากการถอดแบบคานที่เร็วเกินไป ทำให้เกิดการรับน้ำหนักโครงสร้างที่ไม่ดี

วิธีแก้
นำน้ำหนักออกจากแนวผนังที่แตกร้าว เพื่อไม่ให้คานแอ่นตัวลงมาเพิ่ม จากนั้นทุบผนังบริเวณที่ติดกับท้องคานออกเพื่อให้เกิดช่องว่างระหว่างท้องคานและผนัง แล้วฉีดอุดด้วย PU โฟม ตกแต่งและทาสีให้เรียบร้อย ส่วนรอยแตกร้าวแนวดิ่งที่ สามารถอุดด้วยปูนสำหรับซ่อม รอให้ปูนเซตตัว และทาสีทับ

ข้อควรระวัง
ควรพิจารณารอยร้าวว่าลามไปถึงแนวคานมากน้อยขนาดไหน เพื่อแก้ไขให้ถูกต้อง ไม่ลุกลามไปมากกว่าเดิม

awsa