คู่มือการเอาตัวรอดจากโควิด-19

แม้คุณจะไม่อยากออกจากบ้านไปเสี่ยงโควิด-19 ที่ไหน แต่ปัจจัยในชีวิตและความจำเป็นบางอย่าง ก็ทำให้คุณต้องออกจากบ้านทุกวัน ขณะที่บางคนยังต้องพึ่งพาขนส่งสาธารณะในการเดินทาง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปอีก โดยเฉพาะใครที่ไม่สามารถทำงานอยู่ที่บ้านได้ เรามีคู่มือการเอาตัวรอดจากโควิด-19 มาแนะนำ ถ้าทำตามนี้ก็น่าจะลดโอกาสติดเชื้อไปได้เยอะทีเดียว

การเตรียมตัวก่อนออกจากบ้าน

  • เตรียมหน้ากากอนามัย จะเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยก็ดี เลือกที่ใส่แล้วกระชับใบหน้า ครอบทั้งปากและจมูก
  • พกเจลและสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวไว้เสมอ
  • กระดาษทิชชูต้องมีไว้ใช้ เผื่อเวลาปิดปากจาม-ไอ หรือใช้จับเมื่อต้องสัมผัสพื้นผิวต่างๆ ที่เราไม่แน่ใจว่าจะมีเชื้อโรคอยู่หรือไม่
  • หากเดินทางโดยรถส่วนตัวได้จะปลอดภัยที่สุด


ระหว่างเดินทางหรืออยู่นอกบ้าน

  • สวมใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา และไม่สัมผัสพื้นผิวด้านหน้าของหน้ากากอนามัย เพราะอาจมีเชื้อโรคติดอยู่
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสสิ่งของให้ได้มากที่สุด หรือหากเลี่ยงไม่ได้ ให้ฉีดแอลกอฮอล์ก่อนสัมผัส หรือล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้งหลังสัมผัส โดยเฉพาะลูกบิด ปุ่มกดลิฟต์ มือจับประตู ราวบันได พวงมาลัยและเกียร์รถ
  • หากต้องขึ้นรถโดยสารสาธารณะ ให้พยายามสัมผัสพื้นผิวบนรถโดยสารให้น้อยที่สุด และเว้นระยะห่างจากคนรอบข้าง 1-2 เมตร
  • ล้างมือหลังจับธนบัตร เหรียญหรือบัตรโดยสาร
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหาร เครื่องดื่มระหว่างเดินทาง
  • ล้างมือทันทีหลังลงจากรถโดยสาร และหลังจากถึงจุดหมายปลายทาง
  • มีสติอยู่เสมอ เพื่อยับยั้งตัวเองไม่ให้ยกมือขึ้นสัมผัสใบหน้าระหว่างโดยสารบนรถหรือขับรถ


การใช้ชีวิตในที่ทำงานอย่างปลอดภัย

  • บันไดและลิฟต์ พยายามขึ้นบันได (จับราวบันไดเท่าที่จำเป็น) แทนการใช้ลิฟต์ หรือหากต้องใช้ลิฟต์ให้สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างของจุดยืน เลี่ยงการสัมผัสกับผู้อื่น และล้างมือทุกครั้งเมื่อออกจากลิฟต์
  • การรับประทานอาหาร 1.พยายามอย่าไปในช่วงที่คนแออัด ควรเว้นระยะเวลา  2.ล้างมือก่อนและหลังรับประทานอาหาร  3.นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร  4.ควรเลือกเป็นอาหารจานเดียว  5.กินอาหารปรุงสุก  6.หากเป็นไปได้ควรมีภาชนะส่วนตัว  7.เลือกร้านสะอาด ปรุงอาหารตามหลักสุขอนามัยที่ดี
  • ภายในออฟฟิศ  1.ทำความสะอาดโต๊ะและเครื่องใช้ส่วนตัวอย่างสม่ำเสมอ  2.อุปกรณ์ เครื่องใช้หรือจุดที่มีการสัมผัสร่วมให้ทำความสะอาดบ่อยๆ  3.หลังใช้อุปกรณ์ เครื่องมือหรือจุดสัมผัสร่วมให้ล้างมือทุกครั้ง  4.นั่งห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร  5.เปิดช่องระบายอากาศ หน้าต่าง ประตู  6.หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีคนอยู่ร่วมกันจำนวนมาก เช่น การประชุม สัมมนา หากจำเป็นไม่ควรเกิน 50 คน โดยให้อยู่ห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร และควรสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง
  • การใช้สุขา ล้างมือก่อนและหลังใช้งาน ปิดฝาชักโครกก่อนกด

หลังเลิกงาน ล้างมือก่อนเข้าบ้าน จากนั้นรีบเปลี่ยนชุดชำระล้างร่างกายให้สะอาด

awsa

คู่รักแห่งโลกดีไซน์ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 20

คู่รักแห่งโลกดีไซน์ผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในศตวรรษที่ 20

Charles และ Ray Eames พาร์ทเนอร์ชีวิตและคู่หูนักออกแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังระดับตำนาน ผู้ถ่ายทอดชิ้นงานที่มีบทบาทต่อชีวิตประจำวันของคนอเมริกันจนเกิดเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ และหยั่งรากลึกในโลกแห่งงานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการออกแบบตั้งแต่ยุค 1950 เป็นต้นมา พวกเขามิได้เพียงแค่ออกแบบผลิตภัณฑ์ที่พลิกโฉมวิถีชีวิตของคนชั้นกลางในยุคนั้น หากแต่ยังวางรากฐานวิธีการทํางานดีไซน์สมัยใหม่และสร้างแรงบันดาลใจไว้ให้กับดีไซเนอร์รุ่นหลังอีกด้วย

จุดเริ่มต้นอันรุ่งโรจน์ของ Charles และ Ray Eames คือโปรเจ็กต์เฟอร์นิเจอร์ขึ้นรูปจากไม้อัดดัดโค้ง ซึ่งพวกเขาได้คิดค้นและออกแบบเพื่อใช้งานจริงในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ไม่ว่าจะเป็นเฝือกไม้สําหรับทหารบาดเจ็บหรือเก้าอี้นักบินน้ําหนักเบา นับเป็นต้นแบบของเฟอร์นิเจอร์หลากหลายชิ้น หรือนิยมเรียกกันว่างานออกแบบสไตล์ Mid-Century Modern (นิยามของกระแสงานดีไซน์ที่ได้รับอิทธิพลจากงานสไตล์ Bauhaus เกิดขึ้นท่ามกลางความขาดแคลนวัตถุดิบในช่วงหลังสงครามโลก)

Iconic  Design of 20th Century

ความคิดของทั้งคู่นั้นหลากหลายและไร้ขอบเขต  Charles เคยพูดว่า “We don’t do ‘art’ – we solve problems.” พวกเขาไม่ได้ทำงานศิลปะแต่ออกแบบเพื่อช่วยแก้ปัญหา โดยตีโจทย์ต่างๆ เพื่อสร้างสรรค์สิ่งที่ดีที่สุดให้ได้มากที่สุด ในช่วงเวลานั้นเอง Charles และ Ray Eames ได้เรียนรู้เทคนิควิธีการสร้างแม่พิมพ์ดัดไม้อัดให้คงรูปตามต้องการเพื่อการผลิตครั้งละมากๆ (Mass Production) ซึ่งส่งผลกระทบต่อโลกอุตสาหกรรมตลอดศตวรรษที่ 20 ทั้งการใส่ใจต่อฟังก์ชั่นใช้สอย รูปทรงที่เป็นธรรมชาติรองรับสรีระ จนกลายเป็นอัตลักษณ์ในการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ซึ่งทั้งคู่ช่วยกันออกแบบและทดลองครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุดเก้าอี้ไม้อัดดัดโค้งตัวแรกหรือที่รู้จักกันว่า Dining Chair Wood (DCW) ได้ถูกผลิตและจำหน่ายอย่างกว้างขวาง โดยมีลักษณะเด่นอยู่ตรงบริเวณที่นั่งและพนักพิงที่โค้งรับกับสะโพกและแผ่นหลังของผู้นั่งอย่างพอเหมาะพอดี ผสมผสานเข้ากับสไตล์เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ จึงทำให้ DCW สามารถตกแต่งเข้ากับบ้านสมัยใหม่ได้เป็นอย่างดี

จวบจนปัจจุบันเก้าอี้รุ่นนี้ยังคงผลิตและเป็นที่ต้องการของคนทั่วโลกไม่เปลี่ยนแปลง จากจุดยืนที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นตลอดช่วงชีวิต ทำให้ผลงานการออกแบบนับร้อยชิ้นของพวกเขายังคงโลดแล่นผ่านกาลเวลา เป็นผลงานมาสเตอร์พีซที่หายากและมีราคาสูงจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งได้รับคำนิยมจากหนังสือพิมพ์ The Washington Post ว่า “ผู้ที่ทำให้วิถีการนั่งของศตวรรตที่ 20 เปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง”

awsa

Smart Design Solutions For Sustainable Community

MLK1101 SUPPORTIVE HOUSING คือหนึ่งในโปรเจ็คท์สุดเจ๋งแห่งปีที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไร้บ้านจาก LORCAN O’HERLIHY ARCHITECTS [LOHA] โดดเด่นด้วยด้วยอาคารสีขาวในทรง L-shaped ที่สะดุดสายตาด้วยเส้นสายอันโปร่งโล่ง การเล่นระดับกับพื้นที่ด้วยความลาดเอียงและผิดเพี้ยนของรูปทรงเลขาคณิตเพื่อแบ่งสัดส่วนพื้นที่ใช้งาน ดึงดูดความสนใจด้วย green roof รวมไปถึงสวนหย่อมขนาดกะทัดรัดและพืชพักสวนครัวตามจุดต่างๆ ที่จัดวางไว้อย่างมีชั้นเชิง โครงสร้างของตัวอาคารนั้นสามารถเชื่อมโยงพื้นที่ภายในกับพื้นที่สาธารณะ โดยใช้ open space,ทางเดินและบันไดขนาดกว้างหันหน้าออกสู่ถนนเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้พักอาศัยกับบริบทแวดล้อม  นับเป็นงานออกแบบ ‘ภูมิสถาปัตย์’ (landscape architecture) ซึ่งผสมผสานพื้นที่ ฟอร์มและฟังก์ชันจนทำให้เกิดผลลัพธ์อันน่าทึ่งในมุมมองที่แปลกตา

LOHA เลือกใช้การดีไซน์หลากหลายกลยุทธ์รวมไปถึงการออกแบบพื้นที่สีเขียวในบรรยากาศที่ผ่อนคลายเป็นกันเอง โดยคำนึงถึงความเท่าเทียมในด้านคุณภาพชีวิต สุขภาพจิตที่ดีและสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตร ด้วยผังอาคารที่ออกแบบให้เชื่อมต่อกับพื้นที่ทุกส่วน จึงเป็นแรงกระตุ้นให้เกิดพื้นที่พบปะสังสรรค์ขับเคลื่อนความสัมพันธ์ของผู้คน ภายในมีห้องนอนและห้องน้ำส่วนตัว ส่วนห้องครัวและห้องนั่งเล่นเป็นการแชร์พื้นที่ร่วมกัน มีการฝึกอาชีพ คลาสเรียนทำอาหารหรือกลุ่มบำบัด สิ่งเหล่านี้จะช่วยเยียวยาคนไร้บ้านที่มีปัญหาสุขภาพจิต ความรู้สึกโดดเดี่ยวถูกตัดขาดจากสังคม เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่และสามารถยืนหยัดในสังคมได้อย่างปกติ

นอกจากนี้ ตัวอาคารยังเปิดรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่และมีอากาศถ่ายเทสะดวก จึงช่วยลดการใช้ไฟฟ้า มีการติดตั้งระบบต่างๆ ไว้อย่างมีประสิทธิภาพและจัดสรรการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สำหรับเครื่องทำความร้อนและความเย็น ทั้งบริการชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้าและที่จอดจักรยาน รวมถึงความผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมอย่างจริงจัง

การตระหนักถึงความซับซ้อนในโครงสร้างของสังคมเมือง LOHA  ทำงานภายใต้ปรัชญา “Amplified Urbanism” คือการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ด้วยปฎิสัมพันธ์เชิงสร้างสรรค์ระหว่างพื้นที่ส่วนตัวกับพื้นที่สาธารณะรวมไปถึงผู้คนในสังคม ตลอดจนความลื่นไหลของคอมมิวนิตี้ที่มีชีวิตชีวาและกลมกลืนไปกับภูมิทัศน์เมือง (urban landscape) อย่างแยบยล โดยเชื่อว่างานสถาปัตยกรรมจะเป็นกระแสที่สร้างความเปลี่ยนเแปลที่แท้จริงได้ เฉกเช่นโครงสร้างสถาปัตย์ที่มีแนวคิดล้ำสมัยแห่งนี้ ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดต้นทุนการก่อสร้างแล้วยังแก้ปัญหาของพื้นที่อยู่อาศัย ผู้คนและสิ่งแวดล้อมได้อย่างยั่งยืน

awsa

หทัยราษฎร์ ทำเลสุดฮอตแห่งฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ

หทัยราษฎร์ ทำเลสุดฮอตแห่งฝั่งตะวันออกของกรุงเทพฯ

กลายเป็นทำเลทองเปี่ยมศักยภาพสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุน ด้วยความเพียบพร้อมทั้งด้านสิ่งอำนวยความสะดวก ระบบคมนาคมอันทันสมัยเชื่อมโยงการเดินทางเข้าสู่เมือง ธุรกิจการค้าที่คึกคักสอดรับกับชุมชนขนาดใหญ่ที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนโครงการอสังหาริมทรัทพย์ซึ่งเติบโตในระยะเวลาอันรวดเร็ว รวมถึงการมาของรถไฟฟ้าสายสีชมพู,สีส้มและสีเขียว ที่ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งสำคัญให้กับพื้นที่ในย่านนี้

ขยายเส้นทางเพิ่มศักยภาพการใช้ชีวิต

จุดเด่นของทำเลหทัยราษฎร์คือเป็นแหล่งชุมชนเก่าที่มีความหนาแน่น และมีที่ดินเปล่าสามารถนำมาพัฒนาโครงการต่างๆ ได้อีกมาก จุดเปลี่ยนสำคัญคือการตัดถนนเส้นใหม่เพื่อเชื่อมต่อไปยังพื้นที่โซนอื่นๆ ทำให้การเดินทางมีความสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ว่าจะเดินทางไปยังย่านรังสิตปทุมธานี รามคำแหง อ่อนนุช บางนาและสุวรรณภูมิ

การเดินทางเข้า-ออกนั้นใช้ถนนรามอินทราเป็นสายหลัก โดยมีถนนวงแหวนรอบนอกด้านตะวันออกรองรับและเชื่อมกับมอเตอร์เวย์เพื่อขึ้นทางด่วนขั้นที่ 2 ด้วยเวลาเพียงไม่กี่นาที นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางลัดให้เลือกใช้หลากหลาย ทั้งทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์, ถนนเลียบคลองสองจากซอยรามอินทรา 71 หรือวัดคู้บอนมาจนถึงถนนพระยาสุเรนทร์และหทัยราษฎร์,ถนนปัญญาอินทราจากแยกห้างแฟชั่นไอส์แลนด์,ถนนหทัยมิตรเชื่อมระหว่างหทัยราษฎร์กับถนนนิมิตใหม่

รถไฟฟ้าชมพู-ส้ม หนุนตลาดอสังหาฯ เฟื่องฟู

โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) ส่งผลให้ย่าน “มีนบุรี” โดยเฉพาะสถานีมีนบุรีซึ่งเป็นจุดตัดของรถไฟฟ้าทั้งสองสาย ถูกกำหนดให้เป็นศูนย์กลางชุมชนชานเมืองในอนาคต ซึ่งเป็นอีกทำเลที่โดดเด่นที่สุดสำหรับการอยู่อาศัยของคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล และเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากหลีกหนีความวุ่นวายในเมือง ซึ่งกลายเป็นปัจจัยหลักทำให้อสังหาริมทรัพย์ในย่านนี้ได้รับกระแสตอบรับอย่างท่วมท้น

ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่รถไฟฟ้าเชื่อมระหว่างตัวเมืองชั้นนอก ปริมณฑลและใจกลางเมืองเข้าด้วยกัน นับว่าเป็นเส้นทางที่มีศักยภาพมากที่สุดเส้นทางหนึ่ง

บ้านจัดสรร ทาวน์โฮมในราคาที่เอื้อมถึง

พื้นที่โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองและจับจองเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบซึ่งได้รับความนิยมอย่างหมู่บ้านจัดสรรที่ผุดขึ้นราวกับดอกเห็ดในราคาตั้งแต่ 2-6 ล้านบาท โดยถ้าดูยอดขายแล้วต้องยกให้ทำเลบนถนนหทัยราษฎร์  ที่ปัจจุบันมีหลายโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว และมีอีกหลายโครงการที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง

แหล่งรวมไลฟ์สไตล์ครบวงจร

ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนชานเมืองให้ครบครัน ทั้งกินช้อบใช้ที่ห้างแฟชั่นไอซ์แลนด์,เซ็ลทรัลรามอินทรา,The PROMENADE ศูนย์การสุดหรูสไตล์ยุโรป และโครงการ the Grove คอมมูนิตี้สเปซเก๋ๆ สำหรับทุกคนในครอบครัวที่ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับย่านนี้ได้เป็นอย่างดี

awsa

ทำความสะอาดบ้านต้าน COVID

ก่อนอื่นคุณควรรู้ก่อนว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 อยู่บนพื้นผิวแต่ละชนิดได้นานแค่ไหน เพื่อจะได้ทำความสะอาดและกำจัดเชื้อโรคได้อย่างถูกวิธี
บนพื้นผิวโลหะ แก้ว ไม้ หรือพลาสติก
– ที่อุณหภูมิ 4 องศาเซลเซียส เชื้อโรคอยู่นานประมาณ 28 วัน
– ที่อุณหภูมิห้อง เชื้อโรคอยู่ได้นานประมาณ 4 – 5 วัน
– ที่อุณหภูมิมากกว่า 30 องศาเซลเซียส เชื้อโรคจะอายุสั้นลง
– ถ้าอากาศชื้นมากเชื้อโรคจะอยู่ได้นานขึ้น (ความชื้นมากกว่า 50% เชื้อโรคจะมีชีวิตอยู่ได้ดี)

แล้วส่วนไหนของบ้านที่เราควรทำความสะอาดบ้าง
– ข้าวของเครื่องใช้ที่เราหยิบจับบ่อยๆ อย่างโทรศัพท์มือถือ แท็บเลต ของใช้ส่วนตัว
วิธีทำความสะอาด : ใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70 – 90% เช็ดแล้วทิ้งไว้นาน 1 นาที หรือทิ้งไว้ให้แห้ง

– บนพื้นผิวที่ใช้งานประจำ (แก้ว ไม้ พลาสติก) หรือต้องไปสัมผัสอยู่บ่อยครั้ง อย่างเฟอร์นิเจอร์ ของใช้ต่างๆ ตามห้องน้ำและห้องอื่น ๆ
วิธีทำความสะอาด : ใช้น้ำยาซักผ้าขาว 1 ส่วน ต่อน้ำ 49 ส่วน เช็ดทำความสะอาด หรือแช่ทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที จากนั้นให้เช็ดออกด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง

– บนพื้นผิวที่เป็นโลหะ
วิธีทำความสะอาด : ใช้แอลกอฮอล์ความเข้มข้น 70 – 90% เช็ดแล้วทิ้งไว้นาน 1 นาที หรือทิ้งไว้ให้แห้ง ห้ามใช้น้ำยาซักผ้าขาว เพราะจะกัดกร่อนโลหะได้

– เสื้อผ้า ผ้าขนหนู ผ้าปูเตียงหรือผ้าต่างๆ
วิธีทำความสะอาด : ใช้ผงซักฟอกและน้ำซักได้ตามปกติ อาจซักด้วยน้ำร้อนอุณหภูมิ 60 – 90 องศาเซลเซียส ถ้าใช้เครื่องซักผ้าให้ตั้งค่าเป็นน้ำร้อนและต้องตากหรืออบให้แห้งสนิท ข้อควรระวัง คือ อย่าสะบัดผ้าก่อนซักเพราะอาจเกิดการกระจายของเชื้อโรค

***หากหาแอลกอฮอล์ไม่ได้สามารถใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรค (เดทตอล) โดยผสมน้ำยา 1 ฝาขวด กับน้ำ 2 แก้ว เช็ดแล้วทิ้งไว้ 10 นาที

พื้นผิวที่มีไวรัสเกาะติดแล้วต้องทำอย่างไร
สำหรับพื้นผิวที่มีการปนเปื้อนหรือคาดว่ามีไวรัสเกาะติดแล้ว สามารถใช้อุปกรณ์และสารทำความสะอาดบ้านทั่วไปที่กล่าวข้างต้น โดยใช้กระดาษทิชชู ผ้าถูพื้นหรือผ้าทำความสะอาดแบบเปียกที่ใช้แล้วทิ้ง ถ้าใช้ผ้าถูพื้นต้องซักผ้าผืนนั้นทันทีหลังการทำความสะอาด ข้อควรระวัง คือ ทุกครั้งที่ทำความสะอาดควรใส่ถุงมือแบบใช้แล้วทิ้ง และล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ทุกครั้ง ระวังอย่าให้มือสัมผัสดวงตา จมูกและปาก เพราะระหว่างการทำความสะอาดคุณอาจจะเคลื่อนไวรัสจากจุดหนึ่งไปสู่อีกจุดหนึ่งได้ ดังนั้น ควรทำความสะอาดทีละด้านเป็นรูปตัวเอส (S) สามารถช่วยลดการกระจายเชื้อโรคระหว่างการทำความสะอาดได้

awsa

Green Design Meets Modern Tropical Living

ความเป็น Modern Tropical นั้นมีองค์ประกอบที่หลากหลาย และเอกลักษณ์อันโดดเด่นที่ขาดไม่ได้เหล่านี้จะทำให้บ้านของคุณกลายเป็นพื้นที่สุดพิเศษเพื่อให้ทุกวันเป็นเหมือนวันหยุดพักผ่อน

-การออกแบบ Space ขนาดใหญ่ด้วยเส้นสายที่เรียบง่าย เน้นความโปร่งโล่งสบายตา สร้างความเชื่อมโยงระหว่างตัวบ้านกับพื้นที่สีเขียวภายนอกเข้าไว้ด้วยกัน โดยให้แสงธรรมชาติสามารถสาดส่องเข้ามาและช่องลมเพื่อเปิดรับและระบายอากาศ ด้วยการใช้บานหน้าตาสูงใหญ่ ระเบียงไม้ขนาดกว้าง แผงบังแดดระแนงไม้ยื่นยาวหรือหลังคาโปร่งแสง ซึ่งจะทำให้เห็นทิวทัศน์และสัมผัสกับบรรยากาศภายนอกได้อย่างแท้จริงในทุกช่วงเวลา

-จัดวางด้วยเฟอร์นิเจอร์เรียบง่ายสไตล์โมเดิร์นหรือโครงสร้างแบบ built – in โดยคำนึงถึงพื้นที่ใช้สอยและเลือกใช้เพียงน้อยชิ้นเพื่อลดทอดความแออัดรกสายตา เพราะหัวใจหลักของ Modern Tropical คือ Space ที่โล่งกว้างเพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศรอบด้านได้เต็มที่ ข้อสำคัญวัสดุที่เลือกใช้ต้องคงทนต่อสภาพอากาศ  อาจนำวัสดุธรรมชาติมาใช้เป็นองค์ประกอบตอกย้ำสไตล์การตกแต่งให้ชัดเจนขึ้น

-ใช้สีเอิร์ธโทนหรือโทนสีสดใสที่ไม่ฉูดฉาดจนเกินไป เพื่อให้ภาพรวมของบ้านดูอบอุ่นและมีชีวิตชีวา โดยแต่ละสีก็จะมีหลายเฉดสีให้ได้เลือกใช้ตามความชอบของแต่ละคน หรืออาจนำหลายสีมาแมทช์กันเพื่อสะท้อนรสนิยมแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร

-นำต้นไม้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ด้วยการแต่งเติมมุมธรรมชาติเล็กๆ น้อยๆ หรือจัดสวนขนาดกะทัดรัดไว้ตามจุดต่างๆ ต้นไม้ประดับตกแต่งที่มีอยู่จะให้ความรู้สึกสดชื่นและเพิ่มกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติมากขึ้นอีกระดับ

การออกแบบบ้านสไตล์นี้จำเป็นต้องอาศัยผู้ออกแบบที่เข้าใจบริบทของธรรมชาติบริเวณนั้นๆ เพราะต้องออกแบบให้ทุกอย่างออกมา “น้อย” ในแบบโมเดิร์นแต่ก็ “ชัดเจน” ในสไตล์ของทรอปิคัลที่เป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ ที่พร้อมรับมือกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงการลดใช้พลังงาน เพื่อรบกวนธรรมชาติให้น้อยที่สุด

awsa

Pastel is The New Neutral

กระแสสุดฮอตของโทนสีพาสเทลนั้นได้รับความนิยมหลงใหลอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว และปีนี้ก็ยังคงยืนหนึ่งติดท็อปเท็นในฐานะ “Best Interior Paint Colors Trend 2019”  ด้วยเทรนด์สีมาแรงที่ดูทันสมัย เฉียบคม โชว์ความสมาร์ทอย่าง Neutral Pastel ภายใต้แนวคิดที่เพิ่มความเข้มข้นหรือการใช้โทนสี Neutral เช่นดำ ขาว เทา เบจ แต่ยังคงอัตลักษณ์ในความเป็นพาสเทลที่ช่วยลดทอนความแข็งกระด้าง การผสมผสานด้วยโทนสีพาสเทลทำให้บรรยากาศไม่จืดชืดจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นความละมุนตา (soft & smooth) ให้ความรู้สึกโรแมนติกชวนฝัน ความโปร่งโล่งสบายอารมณ์ สงบเงียบและผ่อนคลาย Neutral Pastel จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใช้เป็นเฉดสีหลักในงานออกแบบภายใน ทั้งนี้ยังสามารถสร้างอารมณ์และเอฟเฟ็กต์ให้กับพื้นที่อยู่อาศัยได้อย่างน่าทึ่ง รวมไปถึงสไตล์ในการตกแต่งบ้าน เพราะคุณสมบัติชั้นเลิศของสีพาสเทลนั้นก็คือมีความยืดหยุ่นและลื่นไหลสูง การใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์โมเดิร์นด้วยดีไซน์มินิมัล หรือมีกลิ่นอายของสแกนดิเนเวียน รวมไปถึงการใช้ชิ้นงานตกแต่งหรือพวก Soft Furnishing จะช่วยเพิ่มคาแรคเตอร์ให้ซับซ้อนและเด่นชัดมากขึ้น

รู้กันหรือไม่ว่าสีพาสเทลเรื่มมีการใช้ครั้งแรกในยุค 50s และ ’60s โดยมีองค์ประกอบของโทนสี Neutral เพื่อให้เกิดความคอนทราสต์และดึงจุดสนใจจากสีพาสเทลอันเป็นดีเทลโดยรอบ โทนสีอันทรงพลังนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ในแวดวงอินทีเรียดีไซน์  และได้กลับมาเฟื่องฟูอีกครั้งในยุคดิจิทัลนี้

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาบ้านที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสีสันแห่งยุคสมัยและแล้วล่ะก็ The Colors Bangna สามารถตอบโจทย์การใช้ชีวิตในหลากหลายเฉดสีที่คุณต้องการได้ กับพรีเมี่ยมทาวน์โฮมเก๋ๆ ในคอมมิวนิตี้เก๋ๆ โดยแรงบันดาลใจจากเทรนด์สีแห่งปีมาเป็นธีมสนุกๆ ที่สร้างนิยามใหม่ของการใช้สีเพื่อการตกแต่งภายในได้อย่างชาญฉลาดเต็มไปด้วยความสดใหม่ เพื่อให้ที่อยู่อาศัยของคุณสมบูรณ์แบบที่สุด

awsa

SMALL GARDEN IDEAS WITH UNIQUE TOUCHES

– เปลี่ยนมุมแคบๆ ของบ้านด้วยการจัดสวนแนวตั้ง (Vertical Garden) ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การแขวนกระถางบนผนังโดยสร้างเลเยอร์ลุคดิบๆ เท่ๆในสไตล์ลอฟต์หรือใช้ระแนง ไม้พาเล็ทที่ให้อารมณ์แบบโคซี่ ใช้บล็อกปลูกต้นไม้สำเร็จรูปหรือปลูกไม้เลื้อยยึดเกาะผนัง วิธีนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ให้กับตัวบ้านได้มากทีเดียว  แถมยังสร้างจุดดึงดูดสายตาทำให้ผนังที่ว่างเปล่าดูมีชีวิตชีวาด้วยผิวสัมผัสที่แตกต่าง กั้นเป็นมุมสงบที่ให้บรรยากาศอันผ่อนคลาย

– Glass Terrarium ไอเดียการจัดสวนขวดหรือในภาชนะที่ทำด้วยแก้วมีหลายขนาด นับว่าเป็นการจัดสวนที่เหมาะที่สุดกับวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ไม่มีเวลาดูแลรดน้ำต้นไม้บ่อยๆ คุณสามารถปรับแต่งดีเทล ชั้นเชิงต่างๆในสวนได้ตามใจชอบ เสน่ห์ของ Glass Terrarium คือการกลายเป็น Decorative Item สุดเก๋ที่สามารถนำไปวางแทรกตามจุดต่างๆ ของบ้านให้รายล้อมไปด้วยสีเขียว

ทั้งนี้ Mood & Tone ของสวนแต่ละสไตล์นั้นนอกจากจะขึ้นอยู่กับพันธุ์ไม้ที่เลือกแล้ว การใช้ภาชนะดีไซน์แปลกตาทั้งรูปทรงและสีสันที่เปี่ยมเอกลักษณ์ ยิ่งช่วยสะท้อนตัวตนและรสนิยมการตกแต่งบ้านของคุณให้โดดเด่นขึ้น

awsa

“ We borrow from nature, the space upon we build ”- Tadao Ando

Tadao Ando สถาปนิกชื่อดังชาวญี่ปุ่น ผู้ได้รับ รางวัลพริตซ์เกอร์ รางวัลสูงสุดทางสถาปนิกคนนี้ เขามีแนวคิดในการออกแบบ เน้นเรื่องความสัมพันธ์ของมนุษย์กับธรรมชาติ การหยิบจับธาตุทั้ง 5 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ และที่ว่าง ที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อกันว่าเป็นพื้นฐานของสรรพสิ่งของโลก และของจักรวาล มาใช้เป็นวัสดุหลัก

ใช่ว่าการออกแบบของเขาจะเป็นงานไม้ ล้อมรอบไปต้นไม้ แต่เป็นการออกแบบที่ส่วนใหญ่ใช้คอนกรีตเป็นวัสดุหลัก(ดิน) ออกแบบมาในรูปทรงเลขาคณิตที่สามารถรับลมเข้ามาหมุนเวียนภายในอาคารได้(ลม) หรือเสริมด้วยกระจกบานใหญ่ เพื่อเปิดรับแสงธรรมชาติและมองเห็นวิวมหาสมุทร(น้ำ) เพิ่มลูกเล่นด้วยการออกแบบและจัดวางชิ้นงานเพื่อให้เกิดแสงและเงาที่สวยงาม(ไฟ) รวมถึงการสร้างพื้นที่โล่งกลางอาคาร ให้ผู้คนได้มาเติมเต็มความคิดสร้างสรรค์(ที่ว่าง)

ผลงานของเขาตั้งอยู่ในเมืองใหญ่ทั่วญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น โตเกียว เกียวโต โอซาก้า รวมถึงทั่วโลก อีกด้วย

awsa

“IT’S IMPORTANT TO DESIGN THINGS WITH A KIND OF PERSONALITY”

Marc Newson นักออกแบบที่มีชื่อเสียงและทรงอิทธิพลคนหนึ่งของโลก นิวสันออกแบบทั้ง เฟอร์นิเจอร์ รองเท้า โรงแรม ซึ่งผลงานเขาโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ และได้รับรางวัลหลายชิ้นในระดับโลก อีกทั้งได้ร่วมออกแบบกับแบรนด์ดังๆ เช่น ร่วมออกแบบกล้อง Lieca M, ดีไซน์กล้อง Pentax K-01 และร่วมออกแบบกับบริษัท Apple ไม่ว่าจะเป็น iwatch, earpods เป็นต้น นอกจากนี้ นิวสันยังเป็นหนึ่งในนักออกแบบของ SMAG อีกด้วย

การออกแบบสามารถแสดงออกถึงอัตลักษณ์และตัวตนที่แท้จริง ซึ่งผลงานของนิวสัน จะเป็นงานที่ดูทันสมัย เน้นรูปทรงและวัสดุเป็นหลัก รวมถึงทรอดแทรกสุนทรียภาพของรูปทรงเข้าไปในงานนั้นๆ ด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ จะเน้นรูปทรงโค้งมน ผิวมันเงา อย่างโต๊ะ, เก้าอี้ หรือการออกแบบห้องพักผู้โดยสารของสายการบิน Qantas ที่สร้างสรรค์สวนแนวตั้งอยู่ทั่วบริเวณ, ออกแบบไฟประดับซิดนีย์โอเปร่าเฮาส์ (Sydney Opera House) ปี 2000 สำหรับกีฬาโอลิมปิก

เขาชอบศึกษาอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยนิวสันจะใช้วัสดุเป็นแก่นในการสร้างผลงาน เช่น หินอ่อน, คาร์บอน, ไฟเบอร์ ฯลฯ ซึ่งเขาจะใช้วัสดุนั้นเพียงชิ้นเดียว สร้างผลงานให้เกินขีดจำกัดของวัสดุนั้นๆ จึงไม่แปลกใจเลยว่า..  ทำไมเขาถึงเป็นหนึ่งในนักออกแบบที่ทรงอิทธิพลของโลก




awsa