ประหยัดค่าใช้จ่าย กับ 8 วิธี ช่วยลดโลกร้อนจากที่บ้าน

ลดโลกร้อนจากที่บ้าน

ปัญหาภาวะโลกร้อนเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อทุกคนบนโลกใบนี้ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจากการใช้พลังงานและทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองทำให้เกิดผลกระทบต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง แต่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการลดโลกร้อนได้ง่าย ๆ จากที่บ้าน เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและวิธีการใช้ชีวิตประจำวันเล็ก ๆ น้อย ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการช่วยโลกเท่านั้น ยังเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายตลอดการอยู่อาศัยระยะยาวอีกด้วยได้หลายเท่าเลย

รวม 8 วิธีลดโลกร้อนจากที่บ้าน

รีไซเคิล จัดการขยะอาหาร

1. ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า

การลดการใช้ไฟฟ้าเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการลดปริมาณก๊าซเรือนกระจก

  • ปิดไฟและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็น เช่น ปิดไฟเมื่อออกจากห้อง ปิดทีวี หรือคอมพิวเตอร์เมื่อไม่ใช้งาน
  • เลือกใช้หลอดไฟ LED ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าและใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟแบบเก่า
  • ติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่ประหยัดพลังงาน และตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสม ไม่ควรต่ำกว่า 24 องศาเซลเซียส

2. ใช้พลังงานทดแทน

การหันมาใช้พลังงานที่สะอาดและทดแทนได้ ช่วยลดการใช้พลังงาน

  • ติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาเพื่อผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ นอกจากจะเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแล้ว ยังช่วยลดค่าไฟ และไม่ก่อให้เกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งเป็นสาเหตุของภาวะเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อนอีกด้วย
  • ใช้น้ำร้อนจากระบบพลังงานแสงอาทิตย์ แทนการใช้ไฟฟ้าในการทำความร้อน

3. ลดการใช้น้ำ

พลาสติกสร้างมลพิษตั้งแต่กระบวนการผลิตจนถึงทำลาย ยิ่งใช้พลาสติกมาก ปริมาณก๊าซเรือนกระจกก็ยิ่งมากขึ้น

  • หลีกเลี่ยงการใช้ถุงพลาสติก โดยหันมาใช้ถุงผ้าแทน
  • เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เช่น ขวดแก้ว กล่องอาหารที่ใช้ซ้ำได้
  • งดใช้หลอดพลาสติก หรือลองเปลี่ยนมาใช้หลอดที่ทำจากสเตนเลสหรือกระดาษ

รีไซเคิล จัดการขยะอาหาร

5. รีไซเคิลและจัดการขยะ

การจัดการขยะอย่างถูกต้องช่วยลดการเผาขยะที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก

  • แยกขยะในบ้านออกเป็นประเภทต่าง ๆ เช่น ขยะรีไซเคิล ขยะอินทรีย์ และขยะที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้
  • นำสิ่งของที่ใช้ซ้ำได้กลับมาใช้ใหม่ เช่น กระดาษ ขวดพลาสติก หรือกระป๋อง
  • ทำปุ๋ยหมักจากขยะอินทรีย์ เช่น ขยะจากเศษอาหาร นำมาเข้ากระบวนการทำเป็นปุ๋ยหมักออร์แกนิกเพื่อใช้ในสวนหรือแปลงปลูกผัก

ปลูกต้นไม้ที่บ้าน เพิ่มพื้นที่สีเขียว

6. ปลูกต้นไม้และสร้างพื้นที่สีเขียว

ต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ทำให้โลกร้อน

  • ปลูกต้นไม้ในบ้านหรือสวนหลังบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว
  • เลือกปลูกต้นไม้ที่เหมาะสมกับสภาพอากาศและใช้น้ำน้อย

7. เลือกใช้การเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การลดการใช้รถยนต์ ช่วยลดมลพิษทางอากาศ

  • เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้า รถเมล์ เพื่อลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง
  • ใช้จักรยานหรือการเดินในระยะทางสั้น ๆ แทนการขับรถยนต์
  • หากต้องใช้รถยนต์ ควรเลือกใช้รถที่ประหยัดพลังงาน หรือรถยนต์ไฟฟ้า

8. เลือกซื้อสินค้าอย่างยั่งยืน

การเลือกซื้อสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ช่วยลดการสร้างของเสียและการใช้ทรัพยากร

  • เลือกซื้อสินค้าที่ผลิตจากวัสดุที่ย่อยสลายได้และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
  • สนับสนุนผลิตภัณฑ์จากท้องถิ่น เพื่อลดการขนส่งระยะไกลที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจก
  • หลีกเลี่ยงการซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์เยอะหรือใช้วัสดุที่ไม่สามารถย่อยสลายได้

แอปพลิเคชัน Recycle Time ของโครงการบ้านอารียาฯ

การเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในชีวิตประจำวันเหล่านี้ ทั้งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และสามารถสร้างผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกได้ อารียาฯ จึงให้ความสำคัญกับเรื่อง Zero Waste ตามแนวคิด Sustainable Happiness โดยมอบ Food Waste Composter* หรือ เครื่องทำปุ๋ยจากขยะเศษอาหาร ให้กับลูกบ้าน และสนับสนุนให้ทุกคนรักษ์โลกโดยเริ่มต้นจากการแยกขยะอาหารที่บ้าน ช่วยลดขยะอาหารและลดภาวะโลกร้อน อีกทั้งอารียาฯ ยังมีแอปพลิเคชัน Recycle Time ที่จะช่วยเปลี่ยนขยะรีไซเคิลให้มีมูลค่าขึ้นมาได้ มีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มมูลค่าของขยะ และส่งเสริมการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เลือกบ้านที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย พร้อมฟังก์ชันที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เข้าไปดูบ้านคุณภาพ หลากหลายโครงการ บนทำเลศักยภาพ จากอารียาฯ ได้ที่ www.areeya.co.th

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:

https://thailand.un.org/th/174634-10-วิธีแก้วิกฤตโลกร้อนด้วยตัวเรา

https://home.kapook.com/view280542.html

awsa

จัดการปัญหาขยะอาหารในบ้าน ช่วยลดภาวะโลกร้อน

จัดการปัญหาขยะอาหารในบ้าน ช่วยลดภาวะโลกร้อน

ในปัจจุบัน ปัญหาโลกร้อนเป็นอีกหนึ่งในความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดที่ทุกคนต้องเผชิญ และหนึ่งในสาเหตุที่มีส่วนในการทำให้เกิดปัญหาโลกร้อนที่หลายคนอาจไม่ได้นึกถึง ก็คือปัญหา ขยะอาหารที่ถูกทิ้งไปเฉลี่ยปีละ 2.5 พันล้านตันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นในขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การจัดเก็บ หรือการบริโภคก็ตาม ทำให้ขยะเหล่านี้ย่อยสลายไม่ทันเวลา ซึ่งส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก

สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดขยะอาหาร

1. การผลิตเกินความต้องการ
ในกระบวนการเกษตรและการผลิตอาหาร มักมีการผลิตอาหารมากกว่าความต้องการจริง เนื่องจากความไม่แน่นอนในตลาด ความสูญเสียระหว่างการเก็บเกี่ยว และการคาดการณ์ความต้องการที่ไม่ถูกต้อง อาหารที่เหลือจากการผลิตจึงมักถูกทิ้ง

2. การขนส่งและการจัดเก็บที่ไม่เหมาะสม
อาหารที่ถูกขนส่งในระยะทางไกลหรือถูกจัดเก็บในสภาพที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือการเน่าเสียได้ ส่งผลให้อาหารเหล่านั้นไม่สามารถนำไปบริโภคได้และถูกทิ้งไปในที่สุด

3. มาตรฐานคุณภาพและการคัดเลือก
อาหารบางชนิดถูกทิ้งเนื่องจากไม่ตรงตามมาตรฐานคุณภาพ เช่น รูปร่าง สี หรือขนาดที่ไม่ตรงตามความต้องการของตลาด แม้ว่าจะยังสามารถบริโภคได้ก็ตาม

4. การบริโภคเกินความจำเป็น
ผู้บริโภคมักจะซื้ออาหารมากเกินกว่าที่จำเป็น หรือเตรียมอาหารในปริมาณมากเกินไป ส่งผลให้มีเศษอาหารที่เหลือและถูกทิ้งโดยไม่ถูกบริโภค

5. การขาดความตระหนักรู้และการวางแผน
ผู้บริโภคบางรายไม่ตระหนักถึงปริมาณอาหารที่พวกเขาซื้อหรือจัดเก็บ ไม่ได้วางแผนการบริโภคอย่างรอบคอบ ทำให้มีการทิ้งอาหารที่หมดอายุหรือเน่าเสียก่อนที่จะได้ใช้

6. การไม่ใช้ส่วนของอาหารที่เหลือ
ส่วนของอาหารบางอย่าง เช่น เปลือก ผักและผลไม้ที่ไม่สมบูรณ์ หรือส่วนที่เหลือจากการปรุงอาหาร มักถูกทิ้งโดยไม่ได้ถูกใช้ให้เกิดประโยชน์ ทั้งที่สามารถนำไปทำเป็นอาหารอื่น ๆ หรือใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักได้

ขยะอาหารที่เหลือทิ้ง ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนได้อย่างไร?

เนื่องจากกระบวนการย่อยสลายของขยะอาหารในหลุมฝังกลบจะปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์หลายเท่า ส่งผลให้อุณหภูมิโลกร้อนขึ้นนั่นเอง และปัญหาโลกร้อนจากขยะอาหาร นี้ก็ส่งผลกระทบต่อคนบนโลกมากมาย ทั้งทางตรงและทางอ้อม

ผลกระทบจากปัญหาขยะอาหาร

1. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

  • การปล่อยก๊าซเรือนกระจก: ขยะอาหารที่ถูกทิ้งลงในหลุมฝังกลบจะเกิดการย่อยสลายแบบไม่ใช้ออกซิเจน ทำให้ปล่อยก๊าซมีเทน ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนสูงกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า
  • การสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติ: การผลิตอาหารต้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น น้ำ พลังงาน พื้นที่เพาะปลูก และสารเคมี เมื่ออาหารถูกทิ้งไปโดยไม่ได้ใช้ทรัพยากรเหล่านี้ก็สูญเปล่า
  • การปนเปื้อนในดินและน้ำ: ขยะอาหารที่เน่าเสียและถูกทิ้งลงในสิ่งแวดล้อมอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนในดินและน้ำ ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและสุขภาพของคนส่วนใหญ่

2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

  • การสูญเสียทางเศรษฐกิจ: ขยะอาหารถือเป็นการสูญเสียเงินทุนที่ถูกใช้ไปในการผลิต การขนส่ง และการจำหน่ายอาหาร ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ผลิต แต่ยังรวมถึงผู้บริโภคและเศรษฐกิจของประเทศด้วย
  • การเพิ่มต้นทุนในการจัดการขยะ: รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ต้องใช้ทรัพยากรในการจัดการขยะอาหาร เช่น การเก็บขยะ การกำจัด และการรีไซเคิล ซึ่งเป็นส่งผลกระทบต่อภาวะการเงิน

3. ผลกระทบต่อสังคม

  • ความไม่สมดุลในการจัดสรรอาหาร: ในขณะที่มีอาหารจำนวนมากถูกทิ้งโดยไม่ได้ใช้ ประชากรบางส่วนในโลกยังคงประสบปัญหาขาดแคลนอาหาร การบริหารจัดการขยะอาหารที่ไม่ดีจึงสะท้อนถึงความไม่เท่าเทียมกันในการจัดสรรทรัพยากร
  • การเพิ่มขึ้นของปัญหาสุขภาพ: การทิ้งอาหารในที่ที่ไม่เหมาะสมอาจเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น หนู แมลงวัน ซึ่งอาจนำพาโรคต่าง ๆ เข้ามาสู่ชุมชน อาจเกิดโรคร้ายแรงหรือโรคระบาดกับคนในพื้นที่ได้

4. ผลกระทบต่อความยั่งยืน

  • การสูญเสียโอกาสในการนำทรัพยากรไปใช้ให้เกิดประโยชน์: จริง ๆ แล้วหากมีการจัดการที่เหมาะสม ขยะอาหารที่ถูกทิ้งเหล่านี้จะสามารถนำไปใช้ในการผลิตปุ๋ยหมักหรือพลังงานหมุนเวียนได้ แต่หากไม่มีจัดการ ก็ทำให้สูญเสียโอกาสใหญ่ที่จะนำทรัพยากรเหล่านี้ไปใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

จากผลกระทบต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าการแก้ไขปัญหาโลกร้อนนั้นไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องให้ความสำคัญ และร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อช่วยกันลดผลกระทบจากปัญหาโลกร้อนในระยะยาว

แนวทางการแก้ไขปัญหาขยะอาหาร

การวางแผนการผลิตและการบริโภค

1. การวางแผนการผลิตและการบริโภค

  • วางแผนการซื้อและบริโภคอาหารอย่างรอบคอบ: ผู้บริโภคควรวางแผนการซื้ออาหารล่วงหน้า ซื้อเฉพาะสิ่งที่จำเป็น และคำนึงถึงปริมาณที่เหมาะสมเพื่อลดการทิ้งขยะอาหารที่ไม่ได้ใช้
  • สนับสนุนการบริโภคอาหารท้องถิ่นและตามฤดูกาล: การเลือกซื้ออาหารที่ผลิตในท้องถิ่นและตามฤดูกาลสามารถลดการสูญเสียจากการขนส่งและการเก็บรักษาที่ไม่เหมาะสม

การจัดการอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

2. การจัดการอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ

  • จัดเก็บอาหารอย่างเหมาะสม: การเก็บรักษาอาหารในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม เช่น ในตู้เย็นหรือที่อุณหภูมิที่ถูกต้อง ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและลดการเน่าเสีย
  • ใช้เศษอาหารอย่างมีคุณค่า: เศษอาหารที่เหลือสามารถนำมาใช้ทำอาหารจานใหม่ หรือทำปุ๋ยหมักสำหรับปลูกพืช

ส่งเสริมการรีไซเคิลและการทำปุ๋ยหมัก

3. ส่งเสริมการรีไซเคิลและการทำปุ๋ยหมัก

  • ทำปุ๋ยหมักจากเศษอาหาร: ทำปุ๋ยหมักในครัวเรือนหรือชุมชน เพื่อลดปริมาณขยะอาหารและนำกลับมาใช้ประโยชน์ในรูปแบบใหม่
  • ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการแปรรูปขยะอาหาร: เช่น การนำขยะอาหารไปใช้ในการผลิตก๊าซชีวภาพ หรือเป็นวัตถุดิบในการผลิตพลังงานหมุนเวียน ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์ อย่างเครื่อง Food Waste Composter เครื่องย่อย ‘เศษอาหาร’ ให้กลายเป็น ‘ปุ๋ยออร์แกนิก’

ประโยชน์ของการมีเครื่องย่อยสลายขยะอาหาร

มีเครื่อง Food Waste Composter ติดบ้านไว้แล้วดีอย่างไร?

  • ลดปริมาณขยะที่ส่งไปยังหลุมฝังกลบ: เครื่อง Food Waste Composter สามารถลดปริมาณขยะอาหารที่ต้องนำไปฝังกลบ ซึ่งช่วยลดความต้องการในการใช้พื้นที่สำหรับฝังกลบ
  • ผลิตปุ๋ยหมักออร์แกนิกคุณภาพสูง: ขยะอาหารที่ผ่านกระบวนการย่อยสลายด้วยเครื่อง Food Waste Composter จะกลายเป็นปุ๋ยหมักที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่สามารถนำไปใช้ในการปลูกพืชผักสวนครัวในบ้าน
  • ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก: กระบวนการย่อยสลายขยะอาหารในเครื่อง Food Waste Composter ช่วยลดก๊าซมีเทนที่เกิดจากการย่อยสลายในหลุมฝังกลบ ช่วยลดผลกระทบจากปัญหาโลกร้อน
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการขยะ: การใช้เครื่อง Food Waste Composter ช่วยลดปริมาณขยะที่ต้องจ่ายค่าบริการจัดการหรือนำไปกำจัด ทำให้ช่วยลดค่าใช้จ่ายในครัวเรือนหรือองค์กรได้
  • สะดวกและใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัว: เพียงแค่ใส่ขยะอาหารลงไปในเครื่อง แล้วรอให้กระบวนการย่อยสลายเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งสะดวกสำหรับการใช้งานในครัวเรือน
  • ลดกลิ่นและการสะสมของขยะในบ้าน: ขยะอาหารที่ถูกย่อยสลายจากเครื่อง Food Waste Composter จะไม่ส่งกลิ่นเหม็นและไม่สะสมในถังขยะในบ้าน ทำให้บ้านสะอาดและไม่เป็นแหล่งสะสมของแมลงและเชื้อโรคต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนอีกด้วย

เพราะการเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อโลก เริ่มต้นง่าย ๆ ได้จากที่บ้าน อารียาฯ จึงให้ความสำคัญกับเรื่อง Zero Waste ตามแนวคิด Sustainable Happiness โดยพร้อมมอบ Food Waste Composter* ‘เครื่องทำปุ๋ยจากขยะเศษอาหาร’ ให้กับลูกบ้าน และชวนทุกบ้านมาร่วมรักษ์โลกโดยเริ่มต้นจากการแยกขยะอาหารที่บ้าน นอกจากจะได้ปุ๋ยออร์แกนิกไว้ใส่ต้นไม้ที่บ้านแบบฟรี ๆ ยังได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกลดขยะอาหารและลดภาวะโลกร้อนอีกด้วย

ใครกำลังมองหาบ้านที่ตอบโจทย์ทั้งไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัย และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก พร้อมฟังก์ชันใช้สอยที่ถูกออกแบบมาให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวัน ตอบโจทย์ Zero Waste Lifestyle ลองเข้าไปดูบ้านคุณภาพหลากหลายโครงการ บนทำเลศักยภาพ จากอารียาฯ ที่มาพร้อมกับเครื่อง Food Waste Composter* ‘เครื่องทำปุ๋ยจากขยะเศษอาหาร’ เข้าไปเลือกชมโครงการกันได้เลยที่ www.areeya.co.th

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

 

ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:

https://www.bangkokbiznews.com/social/954409

https://www.bbc.com/thai/international-49277769

https://www.onep.go.th/อาหารกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

awsa

บ้านต้านโลกร้อน! ทำความรู้จักแบบบ้านประหยัดพลังงาน ยุคใหม่ 2024

เทรนด์การอยู่อาศัยในปัจจุบันนั้น นิยมเลือกแบบบ้านประหยัดพลังงานกันมากขึ้น! เพราะสามารถช่วยลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่ายในการดำเนินชีวิตประจำวันได้มาก เช่น ลดค่าไฟฟ้าในบ้าน และลดการซื้ออุปกรณ์ที่ไม่จำเป็น ดังนั้นเราสามารถเริ่มมองหาบ้านที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและช่วยประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน ไม่เพียงแค่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังช่วยลดการก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมในอนาคต อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานและช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืนได้อีกด้วย

ทำความรู้จัก เทรนด์แบบบ้านประหยัดพลังงานแห่งปี 2024

ชวนส่อง! เทรนด์รักษ์โลก แบบบ้านประหยัดพลังงานของคนยุคใหม่ 2024

เทรนด์ของแบบบ้านประหยัดพลังงาน ลดโลกร้อน เป็นหนึ่งในแนวโน้มที่กำลังมีความนิยมในการออกแบบและสร้างบ้านใหม่ โดยมุ่งเน้นการใช้ทรัพยากรด้านพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และลดการใช้พลังงาเท่าที่เป็นไปได้ตามเทรนด์การอยู่อาศัยยุคใหม่ ดังนี้

เทรนด์การใช้เทคโนโลยีในการประหยัดพลังงาน

การใช้เทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงาน เช่น ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power) สำหรับการผลิตไฟฟ้า ระบบอัตโนมัติสำหรับการควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิในบ้าน และระบบปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพ

เทรนด์การใช้วัสดุที่มีประสิทธิภาพให้มากขึ้น

การใช้วัสดุที่มีความทนทานและมีประสิทธิภาพในการกักเก็บความร้อนหรือเย็น เช่น วัสดุฉนวนที่ดี อย่างฉนวนกันความร้อนหรือความเย็น และวัสดุกันเปื้อนต่าง ๆ เป็นต้น

เทรนด์การใช้งานอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน

เลือกใช้อุปกรณ์และเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงาน เช่น เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ

เทรนด์การใช้ระบบสำรองพลังงาน

การใช้ระบบสำรองพลังงาน เช่น ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ระบบก๊าซธรรมชาติ (Natural Gas) หรือระบบแบตเตอรี่สำรองสำหรับการจ่ายไฟฟ้าในกรณีฉุกเฉิน

เทรนด์การออกแบบที่เหมาะสม

การออกแบบบ้านให้มีการใช้พื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม โดยมีการวางแผนการระบายอากาศ และการจัดการไฟฟ้าให้เหมาะสม เพื่อลดการใช้พลังงานที่ไม่จำเป็น

เทรนด์ของแบบบ้านประหยัดพลังงาน เป็นการตอบสนองต่อความต้องการในการอยู่อาศัยที่ยังคงมีสิ่งอำนวยความสะดวก และพร้อมที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยรวม ลดโลกร้อน ถือว่ามีความน่าสนใจสำหรับทุกคนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก!

5 นวัตกรรมของบ้าน เพื่อความยั่งยืนของคุณและโลกที่ดีขึ้นกว่าเก่า

SUSTAINABLE INNOVATION สุดขีดแห่งนวัตกรรมที่อยู่อาศัย 5 นวัตกรรมของบ้าน เพื่อความยั่งยืนของคุณและโลกที่ดีกว่าเก่า

5 นวัตกรรมของบ้านยุคใหม่ ต้องช่วยโลกและอำนวยความสะดวกสบายให้กับชีวิต พร้อมกับร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดปัญหาภาวะโลกร้อนจากการใช้พลังงานไฟฟ้าที่น้อยลง สามารถคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีและนำไปใช้ประโยชน์ได้ถูกต้อง ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นสาเหตุของการปล่อยก๊าซคาร์บอน (CO2) สู่ชั้นบรรยากาศและปัญหาโลกร้อนที่ตามมานั่นเอง 

อารียาชวนทำความรู้จักแนวคิด AREN X SUSTAINABLE INNOVATION สุดขีดแห่ง 5 นวัตกรรมที่อยู่อาศัย เพื่อวิถีมินิมอลอย่างมีความรับผิดชอบต่อโลกใบนี้ มาทำความรู้จักกันให้มากขึ้นเลย!

Passive Airflow

ระบบไหลเวียนอากาศแบบไม่ใช้พลังงานไฟฟ้า เป็นวิธีการใช้ความแตกต่างในอุณหภูมิและความชื้นระหว่างภายในและภายนอกบ้าน เพื่อสร้างการไหลเวียนอากาศภายในอาคาร การใช้ Passive Airflow เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยไม่ต้องใช้พลังงานเพิ่มเติมและช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าในการทำความเย็นหรือทำความร้อนในบ้านได้

Active Airflow

ระบบเติมอากาศภายในบ้านผ่านตัวกรองระดับ HEPA กรองฝุ่นอนุภาคเล็กกว่า PM 2.5 จะช่วยให้บ้านหรือสถานที่ที่ใช้ระบบนี้มีอากาศที่สะอาดและปลอดภัยมากขึ้น โดยลดการสะสมของสารพิษในอากาศและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางอากาศ นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการแพ้ฝุ่นและอาการไมเกรนที่เกิดจากการสะสมของฝุ่น PM 2.5 ในอากาศได้อีกด้วย

EV Charger Support

รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหรือตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เลือกและติดตั้ง EV Charging Station ที่รองรับระบบการชาร์จที่ทันสมัย เช่น ระบบชาร์จไฟฟ้ารวดเร็ว (Fast Charging) หรือระบบการชาร์จไร้สาย (Wireless Charging) เพื่อให้เจ้าของบ้านได้รับประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพ ซึ่งการติดตั้ง EV Charger Support จะช่วยให้เจ้าของบ้านมีความสะดวกสบายในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รองรับระบบการชาร์จที่ทันสมัย

Food Waste Composter

ย่อยเศษอาหารให้เป็นปุ๋ยออร์แกนิก การใช้ Food Waste Composter ช่วยลดปริมาณขยะอินทรีย์ที่ส่งออกไปยังท้องทะเลหรือบ่อน้ำ และเป็นวิธีการใช้ประโยชน์จากเศษอาหารที่ไม่ได้ใช้ โดยสร้างประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อมและสร้างเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่มีคุณค่าสูงให้กับพืชและผักในสวนของเราอีกด้วย

Recycle Time Application

แอปพลิเคชันที่ช่วยเปลี่ยนขยะรีไซเคิลให้มีมูลค่าขึ้นมาได้ มีประโยชน์ในการช่วยเพิ่มมูลค่าของขยะที่รีไซเคิลได้ และส่งเสริมการรีไซเคิลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

 

อารียาฯ ชวนคุณมาสัมผัสนวัตกรรมที่อยู่อาศัยแบบ MORE MADLY MINIMAL สุดขีดแห่งงานดีไซน์และฟังก์ชัน เปิดจองแล้ววันนี้! กับ ‘บ้านเดี่ยวสไตล์ Modern Minimal’ พร้อมสวนส่วนตัว หรือสระว่ายน้ำส่วนตัวกลางบ้าน* เพียง 25 ยูนิต บนทำเลดีที่สุด ติดเมกาบางนา* และทางด่วน* เริ่ม 12.9 ล้านบาท*

ลงทะเบียนรับสิทธิ์เข้าชมโครงการแบบส่วนตัวก่อนใคร : https://areeya.co.th/singlehome/aren-x/

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด

awsa